จากกรณี หนุ่มโหด หลอกพ่อและน้องสาวเข้าไปในกล่องเหล็กแล้วถ่วงน้ำเสียชีวิต ที่ อ.พังโคน จ.สกลนคร ความคืบหน้าของคดี วันนี้ (10 ม.ค. 67) เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 ตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 เวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพังโคน ได้รับแจ้งว่ามีชายต้องสงสัย มีพิรุธน่าจะก่อเหตุฆาตกรรม ที่บริเวณหนองหลุมหิน สระน้ำท้ายหมู่บ้านบ้านสร้างขุ่ย ตำบลพังโคน อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร โดยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปทำการตรวจสอบ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้ต้องหา คือ นายวรุตน์ เดชภูมี อยู่ในที่เกิดเหตุ ลักษณะท่าทางมีพิรุธ ตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ พบชุดเสื้อผ้าผู้ชายอยู่ 1 ชุด รองเท้าผู้หญิง 1 คู่ โดยชาวบ้านที่ตามมาในที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงโวยวายเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบผู้ต้องหา ได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆาตกรรมพ่อและน้องสาว โดยวิธีการหลอกให้ผู้ตายทั้ง 2 คน เข้าไปในกล่องเหล็กที่ตนเตรียมไว้ ก่อนล็อคและผลักลงน้ำไปทั้งสองคน จนขาดอากาศหายใจ และเสียชีวิต เจ้าตัวได้ให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมาทำการสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับแรงจูงใจในการฆาตกรรมครั้งนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เมื่อประมาณปลายปี 2566 ได้มีปากเสียงทะเลาะกับพ่ออยู่หลายครั้ง และพ่อก็จะพูดในลักษณะตัดพ่อตัดลูก จะไม่ให้มรดก และเมื่อทะเลาะกันก็จะมีการพูดประเด็นนี้ขึ้นมา ผู้ต้องหาก็เลยมีความเครียดสะสม จึงคิดวางแผนฆาตกรรมพ่อและน้องสาวดังกล่าว
จากพยานหลักฐาน กล่องเหล็กมีการติดล้อ หมายความว่าเมื่อพ่อกับน้องสาว เข้าไปในกล่องเหล็กได้แล้ว ก็จะเลื่อนได้คนเดียว เป็นการวางแผน โดยหลอกพ่อให้ไปดูทำเลแหล่งน้ำตรงนี้ อ้างว่าตนเองอยากจะประกอบอาชีพตกปลาทำบ่อปลา พ่อก็คิดว่าลูกชายจะทำมาหากินก็เลยไปดู คำถามว่าทำไมพ่อจึงเข้าไปในกล่องเหล็ก ผู้ต้องหาหลอกว่าฟิวเจอร์บอร์ดซึ่งบุที่กล่องเหล็กด้านใน ถ้าสัมผัสความร้อนจะพองตัวขึ้น สามารถเป็นที่นอนได้ ให้พ่อลองนอนดู พ่อก็เชื่อไม่คิดว่าลูกจะก่อเหตุ ก็เข้าไปนอนตามที่ลูกหลอก โดยน้องสาวซึ่งเป็นเด็กพิเศษก็เข้าไปในอีกกล่องพร้อมๆกัน กล่องเหล็กอันแรกยาว 180 ซม. กล่องที่สองยาว 190 ซม. จ้างทำในราคา 12,000 บาท รวมถึงนั่งร้านที่ตั้งกล่องเหล็กอีก ในราคา 8,000 บาท 
จากคำรับสารภาพผู้ต้องหาบอกว่าไม่ได้เป็นจิตเวช มีสติสัมปชัญญะดี เมื่อตรวจร่างกายก็ไม่พบสารเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปตรวจสุขภาพจิตเพื่อยืนยันอีกครั้งที่โรงพยาบาลพังโคน ในส่วนของพยานหลักฐานของคดี มีความคืบหน้าไปมาก จากการสอบปากคำเจ้าตัวก็ให้การรับสารภาพแล้ว พยานแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้นำชุมชนผู้ที่แจ้งเหตุ รวมถึงผู้ที่พบเหตุหรือผู้ที่ใกล้ชิดเหตุการณ์ ให้การสอดคล้องตรงกัน ประกอบกับหน่วยพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปตรวจสอบเก็บวัตถุพยาน พยานนิติวิทยาศาสตร์ไว้แล้ว ก็เชื่อมั่นว่าสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้
โดยเบื้องต้นได้ตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา กระทำต่อบุพการี กระทำการอันเป็นการโหดร้าย จึงควบคุมตัว ขออำนาจศาลจังหวัดสกลนคร ทำการฝากขังเพื่อเข้าควบคุมตัวที่เรือนจำจังหวัดสกลนครต่อไป
