รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดสกลนคร มอบกรรมสิทธิ์ และ ไถ่ชีวิตโค-กระบือ ภายใต้โครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ ช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจน ให้มีโอกาสได้โค-กระบือ ไว้ใช้แรงงานเป็นของตนเอง
(31 มี.ค.67) ที่ บริเวณสวนสาธารณะหนองสามขา อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดสกลนคร โดยเป็นประธานในพิธีมอบกรรมสิทธิ์และ ไถ่ชีวิตโค-กระบือ ภายใต้โครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิ คุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระองค์มีพระราชดำริให้จัดตั้งโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ ขึ้นในปี พ.ศ 2522 เพื่อทำการช่วยเหลือผู้ยากจน ให้มีโอกาสได้ โค-กระบือ ไว้ใช้แรงงานเป็นของตนเอง ซึ่งกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สนองตามแนวพระราชดำริ ดังกล่าว โดยมีนายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่จังหวัดสกลนคร หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ ทั้งในระดับจังหวัดและอำเภอคำตากล้า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนเกษตรกร และประชาชนเข้าร่วมพิธี มีนายสัตวแพทย์ประภาส ภิญโญชีพ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวรายงานความเป็นมาของโครงการมอบกรรมสิทธิ์ และไถ่ชีวิตโค-กระบือ
ซึ่งในวันนี้ที่จังหวัดสกลนคร ได้มีการมอบกรรมสิทธิ์โค-กระบือ จำนวน 117 ตัว เป็นโค 63 ตัว กระบือ 54 ตัว รับมอบโค เพศเมีย จำนวน 100 ตัว เพื่อนำไปช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากจนให้ยืมเลี้ยง เพื่อการผลิต ตามระเบียบโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ รวมทั้งได้ร่วมกัน ปล่อยขบวนรถเสบียงหญ้าอาหารสัตว์ เพื่อจัดตั้งเป็นคลังเสบียงอาหารสัตว์ประจำตำบล ด้วย
นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินงาน ตามแนวพระราชดำริโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ มาอย่างต่อเนื่อง ช่วยเหลือเกษตรกร ให้มีโค-กระบือ ไว้ใช้เป็นแรงงานของตนเอง อีกทั้งยังได้ร่วมกันอนุรักษ์และเพิ่มจำนวนโค-กระบือ ของประเทศไทยให้มากขึ้น เกษตรกรมีรายได้ มีอาชีพ ด้วยการนำโค-กระบือ ไปใช้ประโยชน์ในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร จึงขอให้เกษตรกรได้ดูแลโคและกระบือ ที่ได้รับมอบกรรมสิทธิ์ในครั้งนี้ เป็นอย่างดี สำหรับโรคระบาดสัตว์ อย่างโรคแอนแทรกซ์ ที่พบมีการแพร่ระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน ยืนยันยังไม่พบในประเทศไทยซึ่งได้มีการเฝ้าระวังโรคทั้งในคนและสัตว์ โดยเฉพาะด่านช่องทางเข้าออกที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- กทม. ร่วม"ฟูกูโอกะ" เปิดงาน "Fukuoka Fair" ฉลอง 18 ปีเมืองพี่เมืองน้อง
- จัดกิจกรรมวิ่งการกุศล UNITHAI-CUEL Run for Charity 2025 ครั้งที่ 3 วิ่งด้วยใจ ในสวนสวย ช่วยผู้ป่วยมะเร็ง
- ชมคลิป-เตรียมเที่ยวงาน 10 ชาติพันธุ์ ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในรูปแบบใหม่ ชมขบวนแห่กลุ่มชาติพันธุ์อลังการ
- เตือนชาวบ้านอย่าตกเป็นเครื่องมือคนร้ายที่พยายามสร้างความขัดแย้งในพื้นที่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: