ก.พ.ประเมิน สกลนครโปร่งใส อันดับ 2 ของประเทศ พร้อมเปิดโครงการขับเคลื่อนหลักสูตรเสริมสร้างเกียรติภูมิข้าราชการ สำนึกข้าราชการไทยไม่โกง เพื่อจังหวัดสกลนครใสสะอาด ผู้ว่าฯเผยค่านิยม “อยู่สกล รักสกล ทำเพื่อสกลนคร” เมืองแห่ง 3 ธรรม ธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ห้องประชุมโรงแรมพี.ซี. แกรนด์พาเลซ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร นางชุติมา หาญเผชิญ รองเลขาธิการ ก.พ. พร้อมด้วย นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ร่วมเปิดโครงการขับเคลื่อนหลักสูตรเสริมสร้างเกียรติภูมิข้าราชการ สำนึกข้าราชการไทยไม่โกง เพื่อจังหวัดสกลนครใสสะอาด “สกลนครโปร่งใส” โดยมี นายประจักษฺ สุภาวรธรรม ผอ.ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสกลนคร นาสาวปวีณา ว่านสุวรรณา ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสกลนคร ร่วมอภิปราย
ในหัวข้อ “จริยธรรมนำไทย สร้างรัฐโปร่งใส ป้องภัยทุจริต” มีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทุกภาคส่วนเข้าร่วมโครงการ ซึ่งจังหวัดสกลนครจากการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสของการดำเนินงาน โดยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) พบว่ามีความโปร่งใสอันดับที่ 2 ของประเทศ อันดับ 1 เป็นของจังหวัดชัยนาท
นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า “อยู่สกล รักสกล ทำเพื่อสกลนคร” จังหวัดสกลนครถือเป็นเมืองแห่ง 3 ธรรม ประกอบด้วย ธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่จังหวัดรับการประเมินความโปร่งใส เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ซึ่งเราได้มุ่งเน้นให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทำงานภายใต้ ระเบียบกฎหมาย ข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ยึดเอาประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง “บำบัดทุกข์ บำรุงสุขราษฎร” ข้าราชการต้องมีคุณธรรมและจริยธรรม ทำงานด้วยความโปร่งใส
ซึ่งจะเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น ช่วยให้หน่วยงานและผู้ปฎิบัติมีความรับผิดชอบ มีการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สร้างความเป็นธรรมแก่ประชาชนผู้รับบริการอย่างทั่วถึง และเสมอภาค พร้อมกับการปลูกฝั่ง “คุณธรรม จริยธรรม” ให้กับหน่วยงาน องค์กร ตลอดจนประชาชนทุกคน ซึ่งทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือร่วมใจกัน และต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป
นางชุติมา หาญเผชิญ รองเลขาธิการ ก.พ. กล่าวว่า การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการทำงานหน่วยงานภาครัฐนั้น มีการวัดการทำงานในหลายมิติ ซึ่งสำนักงาน ก.พ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าส่วนราชการจะได้มีส่วนร่วมในการสร้างมาตรฐาน ความโปร่งใสของภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลสืบเนื่องในการพัฒนาประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป โดยการสร้างความตระหนักถึงความรับผิดชอบและการมีส่วนร่วมในการต่อต้านการทุจริตภายในองค์กรของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่
ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ยากต่อการดําเนินงานก็ตาม แต่เป็นสิ่งสําคัญที่หน่วยงานต้องสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อนําไปสู่องค์กรที่มีคุณธรรมและความโปร่งใสในการดําเนินงาน ตลอดจนเป็นการสร้างแนวร่วมในการต่อต้านการทุจริต อันจะส่งผลต่อสังคม ชุมชน และประเทศ เกิดความตระหนักถึงภัยจากการทุจริตและปฏิเสธการทุจริตในทุกรูปแบบ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: