สกลนคร- จัดพิธีสู่ขวัญควาย อนุรักษ์ควายให้อยู่คู่เมืองไทย ชี้ ควายไม่โง่ แถมยังฉลาด น่ารักและมีเสน่ห์ โชว์การแสดงต่างๆ เรียกเสียงปรบมือจากนักท่องเที่ยว
“ควายไม่โง่ ” วันที่ 16 ก.พ. 2561 ที่สนามหญ้าหน้าสถานีขนส่งจังหวัดสกลนครแห่งที่ 2 วันที่ 3 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของกิจกรรมอนุรักษ์ควายไทย“มหกรรมควาย@สกลนคร” กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 ก.พ. 2561 เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีและภูมิปัญญาในชุมชนที่เกี่ยวข้องกับควาย ให้คนไทยตระหนักถึงบุญคุณของควายที่มีต่อเกษตรกรชาวไร่-ชาวนา อดีตควายยังเคยเป็นส่วนหนึ่งของนักรบโบราณในการต่อสู้กับอริราชศัตรูอีกด้วย วันแรกเป็นกิจกรรมแต่งงานควาย วันที่สองประกวดแฟนซีควาย แฟนซีคน และวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของงาน พิธีสู่ขวัญควาย มีการผูกเขาควายแทนการผู้แขน เรียกขวัญและเชิดชู รู้บุญคุณควายที่มีต่อชาวนาไทย
นางสาวเยาวนิตย์ บุรีรักษา ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร กล่าวว่า มหกรรมควาย@สกลนคร ปีนี้เป็นปีแรกของการจัดงานและถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีพี่น้องประชาชนทั้งในจังหวัดสกลนคร ตลอดจนนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดเข้ามาเที่ยวชมงานอย่างคับคั่ง รวมถึงชาวต่างชาติ ควายนั้นถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่คู่เมืองไทยมาตั้งแต่โบราณกาล มีบุญคุณแก่คนไทยหลากหลายด้าน โดยเฉพาะชาวนาที่ได้ใช้ควายในการไถนา นอกจากวัวแล้วยังใช้ควายเทียมเกวียน ใช้ขนสิ่งของ เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนที่รู้ใจของชาวนาเลยทีเดียว
หากเราศึกษาอย่างจริงจังแล้วจะรู้ว่าควายไม่ใช่สัตว์ที่โง่แม้แต่น้อย ชาวนาสามารถฝึกควายให้ช่วยเหลืองานได้หลากหลาย นอกจากนี้ในการประกวดควายแฟนซีเมื่อวานเรายังได้เห็นการแสดงความสามารถของควายต่างๆ โดยเฉพาะการคำนับ การนอบน้อม การคลาน การยิ้ม ฯ เรียกเสียงปรบมือจากนักท่องเที่ยว และชื่นชมทั้งควายและผู้เลี้ยง มีเสน่ห์และน่ารัก นับวันจำนวนประชากรควายยิ่งลดน้อยถอยลง
ข่าวน่าสนใจ:
ปีนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดีเป็นปีแรกของการจัดงานและจะจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องต่อไป เราหวังว่า มหกรรมควาย@สกลนคร จะช่วยให้คนไทยตระหนักถึงคุณค่าของควาย รักและห่วงแหนควายไทย ให้อยู่คู่เมืองไทยตราบนานเท่านาน นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมหาเงินเพื่อการกุศลเข้าโครงการ ก้าวตามฮอย ซอยบ้านเกิด ซื้ออุปกรณ์การแพทย์ช่วยเหลือโรงพยาบาลในจังหวัดสกลนครอีกด้วย นางสาวเยาวนิตย์ บุรีรักษา ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร กล่าว
บ้านบางระจัน เมื่อปี พ.ศ. 2309 มีกลุ่มชาวบ้านผู้รักชาติ ได้รวมพลังกัน ด้านทัพพม่าข้าศึกไว้ เพื่อไม่ให้เข้าจู่โจม ถึงอยุธยาวังหลวง เนื่องจากกลุ่มชาวบ้านส่วนใหญ่ เป็นชาวนาผู้หากินอยู่กับท้องทุ่ง ซึ่งสืบต่อมาจากบรรพบุรุษมาช้านาน และในยามคับขันก็มองเห็นแต่เจ้าทุย ควายไทยที่เป็นเพื่อนยาก ใช้ในการออกรบกับข้าศึก
นายทองเหม็น แห่งบางระจัน ใช้ควายเป็นพาหนะในการทำศึก โดยเขา ได้ขี่ควายตะลุยข้าศึก เพื่อยันทัพไว้ ให้พี่น้องชาวบางระจันส่วนอื่นปลอดภัย ในที่สุดเขาก็ตายพร้อมควาย ซึ่งในเวลาต่อมาได้รับการยกย่องให้เป็น “วีรชนแห่งบางระจัน” ส่วนควายก็ไม่ปรากฏชื่อแต่อย่างใด คนไทยก็สำนึกในบุญคุณว่าควายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทย จนต่อมาได้มีการสร้างอนุสาวรีย์ของควายอยู่ร่วมกับกลุ่มวีรชนแห่งบางระจันด้วย ปัจจุบันตั้งอยู่ที่อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
ควายไทยที่เป็นพาหนะของนายทองเหม็นในการออกศึก รวมทั้งควายตัวอื่น ๆ ในเหตุการณ์สมควรยกย่องว่าเป็น “ควายศึกแห่งบางระจัน”
อ้างอิง ควายศึกบางระจัน บางระจัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: