สกลนคร-รมว.คมนาคมเปิด สะพาน ห้วยทราย หลังเสียหายจากพายุเซินกา ขยายความยาวสะพาน เพิ่มความสูง เพิ่มพื้นที่ระบายน้ำ ตอกเสาเข็ม เทคอนกรีต ประชาชนมั่นใจ มั่นคง แข็งแรง ขณะที่ถนนจะเสร็จทันก่อนสงกรานต์นี้
วันที่ 18 มี.ค. 2561 ที่ สะพาน ข้ามลำห้วยทราย ทางหลวงหมายเลข 22 สายอุดรธานี-สกลนคร-นครพนม ตอนสูงเนิน ท่าแร่ ที่กม.147+632 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในการเปิดใช้งานสะพานห้วยทราย พร้อมเดินตรวจสอบความเรียบร้อย สมบูรณ์ของตัวสะพาน สะพานห้วยทรายได้รับความเสียหายจากกระแสน้ำจากพายุเซินกา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2560 ที่ผ่านมา มวลน้ำมหาศาลจากห้วยทราย ไหลบ่าลงมาทำให้สะพานขาด ชำรุดอย่างหนัก ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก
จากนั้นแขวงทางหลวงสกลนคร ที่ 1 กรมทางหลวง ก็ได้ประสานขอให้ศูนย์สร้างสะพาน(น้ำพอง) เข้าดำเนินการติดตั้งสะพานแบรีย์เป็นการชั่วคราว ในวันที่ 30 ก.ค. 2560 อ่างเก็บน้ำห้วยทราย เป็นอ่างเก็บนำขนาดกลาง ความจุอ่าง ณ ขณะนั้นที่ 2.4 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำได้ไหลออกมาเกือบทั้งหมด สร้างความเสียหายอย่างหนัก
การสัญจรระหว่างสกลนคร อุดรธานี เป็นอัมพาตทันที พายุเซินกาส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่อทุกอำเภอของจังหวัดสกลนคร จนไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้ อย่างไรก็ดีทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา รวมถึงภาคเอกชน และประชาชนจากทั่วประเทศเข้ามาช่วยเหลือจนสามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ในที่สุด
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สะพานข้ามลำห้วยทราย เราได้ทำการซ่อมแซม เพิ่มความยาวสะพานออกไปประมาณ 10 เมตร เพิ่มช่องทางน้ำไหลผ่านได้มากขึ้น ยกระดับความสูงของสะพานขึ้นอีกประมาณ 65 ซม.งบประมาณสร้างสะพานและถนนรวม 18 ล้าน ตัวสะพานก่อสร้างจนสมบูรณ์แล้ว เหลือพื้นถนนบางส่วน น่าจะแล้วเสร็จทันก่อนสงกรานต์นี้
ระหว่างถนนกับตัวสะพานมีการคำนวณทางวิศวกรรมเป็นอย่างดี ทำให้เวลาขับผ่านสะพานห้วยทรายตัวรถจะไม่ได้รับผลกระทบ ระหว่างรอยต่อถนนกับตัวสะพาน เสาเข็มอันเป็นฐานรากก็มั่นคงแข็งแรง เทคอนกรีตอย่างแน่นหนา ป้องกันการกัดเซาะ น้ำมามากแค่ไหนก็ไม่หวั่น ดังนั้นประชาชนชาวสกลนคร รวมถึงผู้ใช้รถสัญจรผ่านถนนสกล-อุดร บริเวณสะพานห้วยทรายนั้น มั่นใจได้ แข็งแรง 100 เปอร์เซ็นต์
ข่าววันนี้ที่น่าสนใจ
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่สกลนครตรวจเยี่ยมโครงการ ไทยนิยมยั่งยืน บำบัดทุกข์บำรุงสุขราษฎร
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: