หลังจากกรณีเด็กนักเรียนเสียชีวิตบนรถรับส่งนักเรียนที่จังหวัดขอนแก่น โดยได้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ร่วมแสดงความเห็นการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นกับรถนักเรียน ซึ่งทางนางสาวบรรจง น้อยพันธ์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 3 บ้านบ่อได้กล่าวว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้อย่าโทษกันไปมาไม่เกิดประโยชน์ ควรร่วมมือกันแก้ไขเพื่อไม่ให้เหตุเกิดซ้ำ ซึ่งทางโรงเรียนได้มีความตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยของนักเรียนที่โดยสารรถนักเรียน โดยได้มีการปะชุมเรื่องดังกล่าวกับผู้ปกครอง ผู้ประกอบการรถรับส่งนักเรียน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีหลักการร่วมกันตกลงร่วมกันคือผู้ปกครองควรส่งนักเรียนขึ้นรถและเช็คเวลาไปกลับ ครูต้องรอรับนักเรียนที่จุดรับส่งนักเรียนพร้อมทั้งตรวจเช็คจำนวนนักเรียน และฝึกนักเรียนสามารถช่วยเหลือตัวเองหากติดอยู่ในรถ
ซึ่งทางนายประดิษฐ์ ลำไย ประธานรถรับส่งนักเรียนได้กล่าวในเรื่องปัญหาที่เกิดกับรถนักเรียนว่า ทางผู้ประกอบเองเคยคิดหาวิธีป้องกันมาโดยตลอด โดยกรมการขนส่งทางบกได้มอบภารกิจให้กับบริษัทเอกชน ได้มาทำการศึกษาแนวทางการบริหารจัดการรถรับส่งนักเรียนที่จังหวัดกาญจนบุรี เลยทำให้ผู้ประกอบการรู้ถึงปัญหาของเด็กนักเรียน ซึ่งส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแก้ปัญญาแบบบูรณาการร่วมกัน ทั้งผู้ประกอบการรถรับส่งนักเรียน ครู นักเรียน ก็ต้องรู้เท่าทันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่จะสามารถแก้ไขปัญหาป้องกันก่อนที่เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นอีก
ในส่วนของการบังคับใช้กฎหมายในการดูแลรถนักเรียนให้เกิดความปลอดภัย ทางร้อยตำรวจเอก อธิษฐ์ แดงอุทัย รองสารวัตรจราจร สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรีได้กล่าวในเรื่องนี้ว่า ในส่วนของสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรีได้มีการประสานงานกับผู้ประกอบการรถรับส่งนักเรียนในการจัดทำข้อมูลเด็กนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับที่พักอาศัยของ ต้นทาง ปลายทาง เบอร์โทรศัพท์ ตลอดจนโรคประจำตัวของเด็ก เพื่อเวลาเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันสามารถช่วยเหลือได้ทันทวงที ส่วนการลืมเด็กไว้ในรถรับส่งนักเรียนการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นควรจะให้คำแนะนำว่าเด็กคอยช่วยเหลือตัวได้อย่างไรบ้าง
