นาย ศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นประธานในพิธีมอบทุนสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด ประจำปี 2561 ในพื้นที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 7ณ.ห้องประชุมอาเซียน โรงแรมพิลูส อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โยมี นาย ธนากร คัยอนันต์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 7 กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด ร่วมพิธีในครั้งนี้
เนื่องจากรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรมได้ให้ความสำคัญกับการคืนคนดีสู่สังคม ผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด เป็นกลุ่มเป้าหมายหนึ่งที่ต้องได้รับการพัฒนาเพื่อกลับไปเป็นกำลังสำคัญของครอบครัวและสังคม กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้ดำเนินการตามแผนประชารัฐร่วมใจปลอดภัยยาเสพติด พ.ศ.2561 และกำหนดแนวทางดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะการสงเคราะห์ช่วยเหลือ ผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด เป็นอีกโครงการหนึ่งที่มุ่งเน้นการให้โอกาสแก่ผู้เสพยาเสพติดที่ผ่านการบำบัดฟื้นฟู และมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการกลับตัวกลับใจไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก
โดยความช่วยเหลือภายใต้โครงการ เป็นการให้ทุนการประกอบอาชีพ เพื่อให้ผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูได้ประกอบอาชีพที่สุจริต และต่อยอดอาชีพเดิม สามารถสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัวต่อไปได้ ซึ่งสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้ดำเนินโครงการนี้ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อให้โอกาสผู้ที่ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดและผู้ที่พ้นโทษ ที่กลับตัวกลับใจได้นั้น ได้มีอาชีพสามารถช่วยเหลือตัวเองและครอบครัวให้มีชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ และไม่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อเป็นกำลังสำคัญของครอบครัวและสังคมต่อไป สำหรับในปี 2561
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 7 ได้ร่วมกับศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด ศูนย์เพื่อการประสานงานการดูแลผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูระดับอำเภอ และเครือข่ายภาคประชาชน ได้มีการพิจารณาคัดเลือกผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูที่ยื่นความประสงค์ขอรับทุนประกอบอาชีพ ที่เป็นผู้ผ่านการบำบัดรักษายาเสพติด ทั้งในระบบสมัครใจ บังคับบำบัด และต้องโทษ ในปี 2559-2560 ที่มีฐานะยากจนขัดสน
ไม่เคยได้รับทุนสงเคราะห์จากหน่วยงานอื่น และผู้ขอรับทุนประกอบอาชีพมีความรู้ความสามารถดำเนินการประกอบอาชีพได้ทันทีภายหลังได้รับเงินสนับสนุน ซึ่งมีผู้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกในครั้งนี้จำนวน 31 ราย รวมประมาณเป็นเงินทั้งสิ้นหกแสนห้าหมื่นหกพันสองร้อยห้าสิบบาท อาชีพที่ขอรับทุนได้แก่ อาชีพเกษตรกร เลี้ยงสัตว์ งานช่าง และค้าขาย เป็นต้น
