เชียงราย-ประกาศรับบริจาคหน้ากากดำน้ำ “ฟูลเฟสแมส” นำน้องออกจากถ้ำทางน้ำ พร้อมทีมงานเร่งระบายน้ำ หลังปริมาณฝนตกลงมาอย่างหนักเมื่อวานนี้ ทีมทหารร่วมกู้ภัย เร่งเจาะเพดานถ้ำ ทะลุไปแล้วกว่า 60% หวังโรยตัวทางอากาศช่วยเหลือ ขณะมีรายงานว่าเด็กทั้งหมด มีความปลอดภัยดีทุกคน
บรรยากาศช่วงบ่ายวันนี้ ที่บริเวณลานด้านหน้าถ้ำหลวง พื้นที่ของอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ทีมกู้ภัยแผนกต่างๆ ได้เข้าให้การช่วยเหลือการปฏิบัติงานของหน่วยซีล ที่ยังคงกระทำภารกิจอยู่ภายในถ้ำ เตรียมปฏิบัติการช่วยน้องๆ “ทีมหมูป่าอคาเดมี่” หลังจากมีการพบตัวว่าติดอยู่ภายในถ้ำแล้วทั้ง 13 ชีวิต ในอาการปลอดภัยดีทุกคน แต่ยังไม่สามารถช่วยเหลือให้ออกมาสู่ภายนอกได้เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำขวางกั้นเป็นทางยาวระหว่างห้องโถงที่ 3 ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการของหน่วยซีลภายในถ้ำ กับ”พัทยาบีช” สถานที่พักตัวขอน้องๆ ภายในถ้ำซึ่งการลำเลียงน้องๆ ให้ออกมาจากถ้ำหลวงอย่างปลอดภัย ต้องสามารถทำให้น้องหายใจในน้ำได้ ซึ่งวิธีสูดออกซิเจนทางปากแบบมนุษย์กบ น้องยังไม่มีความชำนาญ อาจหลุดระหว่างทางเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ทางมูลนิธิร่วมกตัญญู หนึ่งในอาสาสมัครกู้ภัยที่เข้ามาปฏิบัติงานภายในพื้นที่ และมีความชำนาญในการดำน้ำ ได้เตรียมแผนใช้หน้ากากสูดออกซิเจนแบบชนิด “ฟูลเฟสแมส” ซึ่งจะสามารถสวมเข้ากับรูปหน้าของตัวเด็ก และต่อเข้ากับท่อออกซิเจนเพื่อฝึกให้สามารถหายใจใต้น้ำได้ ก่อนนำตัวทั้งหมดออกมาศูนย์สถานที่ปลอดภัย แต่เนื่องจากหน้ากาก”ฟูลเฟซแมส” ที่มูลนิธิร่วมกตัญญูมีอยู่ เป็นไซด์ M เมื่อทดลองให้น้องได้สวมใส่ มีขนาดใหญ่กว่าใบหน้าทำให้น้ำไหลเข้าสู่จมูกและปากของน้องๆ จึงต้องเร่งดำเนินการจัดหาไซด์ที่เล็กลงกว่านี้ จำนวน 15 ใบ เพื่อมาดำเนินการปฏิบัติภารกิจในการช่วยเหลือน้องๆ ในครั้งนี้ให้ออกมาจากนอกถ้ำอย่างปลอดภัย และยังได้ประกาศเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่มีหน้ากากดำน้ำแบบ”ฟูลเฟสแมส” ชนิดนี้ มาร่วมบริจาคที่กองอำนวยการร่วม หรือที่มูนิธิร่วมกตัญญูเป็นการด่วน
ในส่วนของภารกิจทางด้านบนของถ้ำ ภายหลังจากมีการสำรวจปล่องจำนวนนับ 100 ปล่องแล้ว พบปล่องที่มีศักยภาพสามารถลงไปทางปล่องด้านบนเข้าสู่”พัทยาบีช”ได้ จำนวน 2 ปล่อง แต่เนื่องจากมีความหนาจากปากปล่องถึง ห้องโถง”พัทยาบีช” มีความหนาประมาณ 100 เมตร โดยกองทัพบก ได้นำเฮลิคอปเตอร์ยกเครื่องอุปกรณ์การขุดเจาะ และดำเนินการขุดเจาะลงไปแล้วประมาณร้อยละ 60 จนถึงเวลาในขณะนี้ก็ยังคงเร่งดำเนินการขุดเจาะอยู่อย่างต่อเนื่อง หากสามารถ เจาะลงไปลึกถึงห้องโถง และสามารถโรยตัวลงไปได้ ก็จะใช้เฮลิคอปเตอร์ ติดรอกสลิง ดึงตัวน้องๆ ออกมาจากถ้ำทางอากาศได้ซึ่งจะเป็นการช่วยน้องๆ ทีม”หมูป่าอะคาเดมี” ให้ออกมาจากตัวทำอย่างปลอดภัยทั้ง 2 วิธี
ในส่วนของฝ่ายสนับสนุนภารกิจ ยังคงดำเนินการสูบน้ำออกจากตัวถ้ำอย่างต่อเนื่อง มีการเพิ่มเครื่องสูบน้ำใต้ดิน รวมทั้งหมด 3 หลุม เครื่องสูบน้ำภายในถ้ำจำนวน 2 เครื่อง สามารถระบายน้ำได้ถึง 10,000 ลิตรต่อนาที แต่เนื่องจากมีปริมาณฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องของเมื่อวานนี้ ประกอบกับยังไม่สามารถเบี่ยงเบนทางน้ำจากตาน้ำ ทางด้านทิศเหนือของถ้ำได้ ทำให้การระบายน้ำภายในถ้ำมีความลดลงอย่างช้าๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนย้ายกลุ่มน้องๆ ทีม”หมูป่าฯ” เป็นอย่างมาก ซึ่งหากเคลื่อนย้ายออกมาโดยผ่านทางน้ำมายังห้องโถงที่ 3 จะต้องรอให้ปริมาณน้ำลดลง เพียงพอต่อการเคลื่อนย้าย หรือสามารถหาหน้ากาก”ฟูลเฟสแมส” มาครบจำนวนคน ก็จะสามารถนำน้องออกมาสู่ยังที่ปลอดภัยได้เช่นกัน
ทางด้านการฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กๆ มีรายงานว่า วันนี้ได้มีการลากสายโทรศัพท์ต่อจากบริเวณห้องโถงที่ 3 ไปยังห้อง ”พัทยาบีช” เพื่อให้น้องๆ ได้พูดคุยกับบรรดาญาติๆ ให้แพทย์ เจ้าหน้าที่กรมสุขภาพจิต และฝ่ายต่างๆ ประเมิน เพื่อการช่วยเหลือให้ออกมาได้อย่างปลอดภัยอีกทางหนึ่ง ซึ่งขณะนี้น้องๆ ทุกคนมีขวัญและกำลังใจดีขึ้น ส่วนการให้อาหารยังคงเป็นอาหารเจล ที่ใช้กับมนุษย์อวกาศ คณะปฎิบัติหน้าที่อยู่บนยานอวกาศเท่านั้น
บรรยากาศภาพรวมในด้านอื่นๆ ยังคงมีการสแตนด์บาย รถพยาบาล รถกูชีพ กู้ภัย ที่บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลสนาม อยู่กันเป็นจำนวน 13 คัน พร้อมทั้งทีมแพทย์พยาบาลอยู่ประจำหน้าที่กันอย่างพร้อมเพรียง ทุกฝ่ายยังคงปฏิบัติงานกันอย่างเข้มแข็ง ทหาร มทบ.ที่ 37 และจิตอาสายังคงทำหน้าที่ประกอบเลี้ยง เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน ที่ยังคงปักหลักทำข่าว กันอยู่ด้านหน้าบริเวณถ้ำหลวงกันอย่างเนืองแน่น เช่นเดิม ข่าวความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบ ต่อไป
ข่าวโดย : เพทาย บ้านชี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: