เชียงราย-ไทย-ลาว ปฏิบัติการร่วมลาดตระเวนลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อสกัดกั้นปัญหายาเสพติดและเคมีภัณฑ์
10 ม .ค.63 พล.ทใสุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ผอ.ศอ.บส.ชน.)พร้อมคณะให้การต้อนรับพลจัตวา ศรีพัน หัวหน้ากรมทหารชายแดน สปป.ลาว และคณะ ในโอกาสปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนร่วมระหว่างไทยและลาว ตามลำแม่น้ำโขงเพื่อสกัดกั้นยาเสพติดและเคมีภัณฑ์ ณ บริเวณท่าเรือหิรัญนคร อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
พล.ท.สุภโชค กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหายาเสพติดระหว่างไทยและลาวมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นและประสบปัญหาเหมือนกันเนื่องจากทั้งสองประเทศ มีอาณาเขตติดต่อกับแหล่งผลิตยาเสพติดกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดมักใช้ พื้นที่ทั้งสองประเทศเป็นทางผ่านนำเข้ายาเสพติดโดยเฉพาะทางชายแดนภาคเหนือด้านอำเภอเชียงของ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย และอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา รวมทั้งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยเพื่อหลบเลี่ยงการสกัดกั้นยาเสพติดชายแดนภาคเหนือฝั่งประเทศเมียนมาร์
นอกจากนี้กลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดมีการใช้แม่น้ำโขงในการลักลอบลำเลียงทำให้ส่งผลกระทบเป็นปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ แผนปฏิบัติการสามเหลี่ยมทองคำ 1511 จึงเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 เป็นต้นไปโดยความร่วมมือกับ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง คือ กัมพูชา จีนสปป.ลาว เมียนมาร์ ไทย และเวียดนาม
การปฏิบัติการร่วมระหว่างไทยและลาวในวันนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ศูนย์อำนวยการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ สำนักงานปปส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการอำนวยการประสานงานร่วมกันกับฝ่ายลาว ในการที่จะยกระดับว่าด้วยความร่วมมือในการลาดตระเวนทางเรือร่วมกัน เพื่อการสกัดกั้นยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ อีกทั้งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆตามแนวลำแม่น้ำโขง ซึ่งความร่วมมือ นี้จะยกระดับให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อร่วมกันแก้ไขสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ตามนโยบายของรัฐบาลไทย และรัฐบาลลาวร่วมกันต่อไป
ขณะที่ พลจัตวา สีพัน ระบุว่าประเทศไทยและสปป.ลาว มีความใกล้ชิดและเผชิญกับปัญหาร่วมกันอยู่เสมอ เช่นเดียวกับปัญหายาเสพติด ความร่วมมือด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหลายปีที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่งผลให้ทางการลาว สามารถสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดข้ามชาติ ในห้วงปี 2562 ที่ผ่านมามากถึง 65 คดีได้ผู้ต้องหา 116 คน ยึดยาบ้าได้กว่า 33,512,556 เม็ด ไอซ์ 2,876 กก. กัญชา 248 กก. เฮโรอีน 124 กก. และสารตั้งต้นที่จะนำไปใช้ในการผลิตยาเสพติดอีกกว่า 12,000 กก. ซึ่งทางการลาวได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง จึงเดินทางมาร่วมลงเรือลาดตระเวนจากท่าเรือบ้านมอม เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้วมายังน่านน้ำรอยต่อระหว่างประเทศไทย ที่อำเภอเชียงแสน เพื่อแสดงถึงความร่วมมือและความจริงใจในการสกัดกั้นยาเสพติดของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง
ข่าวโดย : วรพล ตะติ
