เชียงราย-จัดระเบียบคุมเข้มสื่อเตรียมนำ”หมูป่า”13 ชีวิตออกจากถ้ำ ตำรวจกันบริเวณอบต.โป่งงาม ห่างจากปากถ้ำ1 กม.เป็นที่อยู่ของผู้สื่อข่าว ช่างภาพกว่า800คน, ปิดถนนรอบโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ปิดโรงเรียนและสำนักงานที่อยู่ใกล้เคียงโรงพยาบาล พร้อมมีคำสั่งห้ามทุกคนถ่ายภาพ ฝ่าฝืนยึดอุปกรณ์ทันที
หลัง นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศอร.พร้อมด้วย พลตรี ฉลองชัย ชัยยะคํา รองแม่ทัพภาคที่ 3 และพลตำรวจตรี ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และนายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ร่วมกันแถลงข่าวและระบุว่าวันนี้เจ้าหน้าที่จะนำทีมหมูป่า 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ทยอยออกมาคาดว่าชุดแรกจะออกจากถ้ำได้ในเวลาประมาณ21.00น.วันที่ 8 ก.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นวันครบรอบ15วันที่เด็ก12 และโค้ชรวม13คนพลัดหลงในถ้ำตั้งแต่เวลา15.00น.วันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 12.00 น. ที่รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ สถานที่ที่จัดเตรียมไว้เพื่อการรักษาบำบัด ฟื้นฟูทีมหมู่ป่าทั้ง13 คนหลังออกจากถ้า พ.ต.อ.กิตติพงษ์ สุขวัฒนพันธ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ได้เดินทางมาแจ้งให้กับผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวหน้าโรงพยาบาล ว่าในช่วงเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป เจ้าหน้าที่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการปิดถนนรอบเวียง ตั้งแต่สี่แยกไฟแดงด้านหลัง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ไปจนถึงสี่แยกไฟแดงสันโค้ง ต.รอบเวียง และห้ามมีการบันทึกภาพเด็ดขาด และจะมีการปิดโรงเรียนสันโค้งและเขตพื้นที่การศึกษาเชียงรายเขต 1ด้วย และ จะให้ผู้สื่อข่าวไปอยู่ที่บริเวณโรงเรียนบ้านเด่นห้า ซึ่งห่างจากโรงพยาบาลไปเล็กน้อยโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกำกับดูแลเพื่อห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวออกนอกบริเวณ
ขณะเดียวในบริเวณรพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ มีการกำหนดการเข้า-ออก โรงพยาบาล โดยญาติและผู้ป่วยทั่วไป ให้เข้าประตูอีกด้าน และกันด้านประตูหน้าเพื่อรับทีมหมูป่าเข้ารับลการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ขณะเดียวกันมีคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ห้าม แพทย์พยาบาลและชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบถ่ายภาพซึ่งหากมีการฝ่าฝืนจะมีการยึดอุปกรณ์ทันที
ส่วนการเตรียมการบริเวณหน้าถ้ำหลวง พบว่าบริเวณหน้าปากถ้ำที่จะเป็นจุดที่นำทีมหมูป่าออกมา เจ้าหน้าที่ได้นำผ้าสแลนสีเขียวมาปิดกั้นบริเวณปากถ้ำยาวประมาณ100 เมตร เพื่อใม่ให้บุคคลภายนอกมองเห็นความเคลื่อนไหวบริเวณปากถ้ำ และผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างประเทศที่ลงทะเบียนกว่า800 คน ถูกกันพื้นที่ให้ไปอยู่ที่ทำการอบต.โป่งงาม อ.แม่สาย ที่ห่างจากถ้ำหลวงประมาณ1 กม.และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแนวจำกัดเขตห้ามผู้สื่อข่าวออกจากพื้นที่อบต.ที่จัดไว้ให้
ขณะที่สื่อมวลชนบางส่วน ได้ไปสังเกตการณ์บริเวณปากทางขึ้นดอนผาหมี ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ14.30 น.มีการเตรียมการของเจ้าหน้าที่โดยเตรียมความพร้อมของเฮลิคอปเตอร์จำนวน 4 ลำ เป็น เฮลิคอปเตอร์ตำรวจ 2 ลำ และของกองทัพ 2 ลำและกำหนดเขตห้ามผู้สื่อข่าวและบุคคลที่ไม่เกี่ยวเข้าใกล้ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ในระยะ 200 เมตร
ขณะเดียวกันตั้งแต่เวลา ประมาณ15.00น.ในพื้นที่อ.แม่สายและบริเวณถ้ำหลวงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และก่อนหน้านี้ช่วงเวลาประมาณ23.00น.คืนวันที่ 7 ก.ค.เกิดฝนตกในบริเวณถ้ำหลวงอย่างหนักเป็นเวลาต่อเนื่องประมาณ1 ชั่วโมง และวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายลักษณะอากาศช่วง วันที่ 9-14 ก.ค. ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยบริเวณพื้นที่ภาคเหนือช่วงวันที่ 8-9 ก.ค.จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60%ของพื้นที่ และช่วง 10-14 ก.ค.จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นร้อยละ 60-70 ของพื้นที่และ เฉพาะพื้นที่จ.เชียงราย จะมีฝนตกช่วงวันที่ 8-9 ก.ค.40%ของพื้นที่ และตั้งแต่วันที่ 10-13 ก.ค.จะมีฝนฟ้าคะนองถึง 60%ของพื้นที่
