เชียงราย-หลังจากการปิดศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหาย ในวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เตรียมปรับภูมิทัศน์ให้เป็นพิพิธพันธ์ แหล่งท่องเที่ยวระดับโลก เพื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้ามาชมถ้ำหลวงเป็นจำนวนมาก
เมื่อเวลา 18.00น. วันที่ 11 ก.ค. 2561 นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผ.ว.จ.ราชการจังหวัดพะเยา ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหาย ในวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย (ศอร) แถลงข่าวปิดศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหาย บริเวณ อ.บ.ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงรายกล่าวถึงการทำงานค้นหา 13 ชีวิตที่ผ่านมาถึงความยากลำบาก การกู้ภัยในครั้งนี้ ถือเป็นการกู้ภัยที่อยากที่สุดในโลก กู้ภัยภายในถ้ำหลวง ถือว่าเกิดความสามัคคีหลายเชื่อชาติขึ้น และเกิดความร่วมมือหลายองค์กร หลายชนชาติ ที่เข้ามาช่วยกู้ภัยช่วย 13 ชีวิตภายในถ้ำหลวง มีหลายประเทศส่งอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัย เข้ามาช่วย หลายประเทศส่งตัวแทนเข้ามาร่วมการค้นหา ทำให้เกิดความสามัคคีเกิดขึ้นการกู้ภัยครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์การกู้ภัยครั้งครั้งใหญ่ที่สุด ต่อไปต้องเตรียมการฝึกการกู้ภัยทางธรรมชาติไว้มากขึ้น ร่วมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนได้อย่างรวดเร็ว กล่าวถึงเด็กในโลกโซเชียลพูดถึงว่าเด็กเป็นฮีโร่ แต่เด็กเป็นผู้ประสบภัย ตามประสาวัยเด็ก ที่คาดไม่ถึงเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น ทุกคนทุกหน่วยงานที่มาร่วมทำงานถือเป็นฮีโร่ ทุกคน และขอบคุณฟันเฟืองหลัก คือคนสูบน้ำที่ช่วยสูบระบายน้ำให้ลดลง เพื่อให้การทำงานของหน่วยซีล เข้าทำงานได้สะดวกง่ายขึ้น ทางนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผ.ว.จ.ราชการจังหวัดพะเยา ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญกล่าวว่า เด็กทั้ง13คน จะต้องเป็นคนดีหลังมีการช่วยเหลือออกจากถ้ำหลวงมาได้ ทุกคนจะเห็นการเสียสละของทุกคน และการส่งแรงใจช่วยทั่วประเทศให้เขา เชื่อได้ว่าเขาจะทำความดีชดใช้สังคม ที่ช่วยเหลือเขาออกมาจากถ้ำหลวงมาการปิดทำหลวงครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่ทำให้ทุกคนทั่วโลกรู้จักถ้ำหลวงอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ที่ทุกคนจะมาเที่ยว มาสัมผัส และจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่สำคัญที่สุดของประเทศ ของทุกอย่างที่อยู่ภายในถ้ำหลวงจะไม่นำออกมา จะคงว่างไว้ที่เดิม จะทำเป็นพิพิธพันธ์ ที่จับต้องได้ อุปกรณ์ทุกอย่างจะว่างไว้ที่เดิม บุคคลที่ใส่เสื้อหรืออุปกรณ์ใขนาดปฏิบัติหน้าที่ถ้ำหลวง ก็จะขอมาไว้ทำเป็นพิพิธพันธ์ ให้นักท่องเที่ยวทั่งโลกมาเที่ยว มาสัมผัสเหตุการณ์ 23 มิ.ย.2561 เด็กทีมนักฟุตบอลหมูป่าอาคาเดมี่13ชีวิต ติดถ้ำหลวง และยังมีวีรบุรุษ จ่าแซม อดีตหน่วยซีล ที่เสียชีวิตในขณะช่วยค้นหา 13 ชีวิต ขอความเสียใจ ดร. ริชาร์ด แฮร์ริส ทีมดำน้ำฐานะหน่วยงานจากออสเตรเลีย ที่บิดาเสียชีวิตเตรียมบินกลับทางด้าน พลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กล่าวถึงการทำงานหน่วยซีล จัดชุดแรก ลงพื้นที่ 20นาย ถึงเชียงราย ตี2 เข้าพื้นที่ ว่างแผนลงปฎิบัติหน้าที่ทันที่เวลาตี4 จนถึงจุดที่ทุกหน่วยเข้าไปถึง ทางหน่วยซีลร้องขออุปกรณ์เสริม พร้อมทีมเสริมเพิ่ม และขอเครื่องสูบน้ำช่วยเพื่อให้ระดับน้ำภายในถ้ำหลวงลดลง จนถึงโถง3 เห็นสามารถตั้งเป็นศุนย์บัญชาการณ์ได้ และขอเพิ่มถังออกซิเจน พระบรมวงศานุวงศ์ถวายถังออกซิเจน 200 ถัง ประชาชน 200 ถัง ส่งมอบให้หน่วยซีลปฏิบัติหน้าที่ ทางหน่วยซีลนำถังออกซีเจนคนล่ะ3ถังนำเข้าไปไว้โถง3 ต้องรีบทำงานอย่างเร่งด่วน เกิดประสบปัญหาภายในห้องโถงที่13ชีวิตอยู่ มีอากาศลดลงเหลือ 15% หากเหลือ 13% จะทำให้เด็กๆหมดสติได้ ปกติอากาศหายใจคนทั่วไปอยู่ที่ 21 % สถานที่เด็กอยู่มีความกว้าง 25 ตารางเมตร ต้องรีบช่วงออกมาอย่างเร่งด่วนทางนายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล ผ.อ.โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคาระห์กล่าวว่าเด็กทั้ง13คน มีอาการดีขึ้นแข็งแรง มีอักเสบเล็กน้อย ตอนนี้ทุกคนปลอดภัยดี ยังคงดูอาการ 7-8 วันถึงกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ แต่ยังคงอยู่ในการดูแลของแพทย์อีกประมาณ 1 เดือน และในวันนี้ที่ 11 ก.ค.เด็กทุกคนทอดสายน้ำเกลือออกหมด ให้ผู้ปกครองเข้าพบในช่วยบ่าย อยู่ด้านนอกกระจกยังไม่ให้เข้าพบอย่างใกล้ชิดทางนายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดี กรมอทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยังจะมีการสำรวจต่อ แลทำให้ทุกอย่างกลับคืนสภาพป่าเหมือนเดิม เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ส่วนท่อบางจุดก็จะทำการรื้อออก ทำการปรับภูมิทัศน์ให้คงธรรมชาติทางด้านนายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อุปกรณ์การสูบน้ำ ที่นำมาเตรียมนำกลับส่งคืน บางส่วนยังคงไว้ภายในถ้ำหลวงนายสุขชัย เจรียงประเสริฐ เกษตรจังหวัดเชียงราย ส่วนผู้ที่ได้รับประสบภัยทางการเกษตรกว่า 1743ไร่ ในการสูบน้ำออกจากถ้ำหลวงภายใน2-3วันที่ผ่านมา พบมีผู้ประสบภัย 126 ราย บนเนื้อที่ 1262 ไร่ จะมีการจ่ายเงินชดเชยให้ภายในสิ้นเดือน ก.ค.2561 และวันที่ 12 ก.ค.ทางเกษตรจะนำเมล็ดพันธำแจกจ่ายที่วันสันปูเลย อ.แม่สาย จ.เชียงรายการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พล.ต.ต.ชูรัตนื ปานเหง้า รอง ผู้บัญชาการตำรวจภาค5 กล่าวทางตำรวจส่งกำลังมา 922 นาย เฮลิคอปเตอร์ จำนวน 10 ลำ รถพยาบาล 10 คัน และรถอื่นๆที่นำมาปฏิบัติการ ภารกิจของตำรวจ คือดูวินัยการจราจร เส้นทางที่ปฏิบัติการค้นหา ไม่ให้มีรถจอดกีดขวาง และจัดระเบียบสื่อ ที่มีจำนวนมาก หลังจากเสร็จภารกิจยังคงดูแล ชาวต่างชาติที่เข้ามามีส่วนการต้นหาถ้ำหลวง 15 ชาติ 97 คน โดยให้ทาง ต.ม.ดูแลอย่างใกล้ชิดจนกว่าชาวต่างชาติจะเดินทางกลับประเทศตน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
- เปิดบริการแล้ว MFU Wellness Center มฟล. ศูนย์บริการสุขภาพแบบครบวงจรแห่งภาคเหนือและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
- ระทึก เพลิงไหม้บ้าน 2 ชั้นวอดทั้งหลัง น้องแมว 7 ชีวิต รอดตายหวุดหวิด โดย 3 ตัวโดนไฟลวกบาดเจ็บ
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
- ปป.แม่สายทานมูมมามจนลืมตัว เรียกเก็บเงินแบบไม่อาย แต่ต่อรองราคาได้
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: