เชียงราย-อัจฉริยะร้อง ปทส.บุกดอยแม่สลองตรวจสอบก่อสร้างโรงแรมบนที่ป่าหลังข้าราชการละเลยต่อการปฎิบัติหน้าที่ปล่อยให้โรงแรมผุดเป็นดอกเห็ด
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 22 ม.ค. 63 จากทีมข่าว 77 ข่าวเด็ดเชียงราย ได้เสนอข่าวการบุกรุกที่ป่าบนดอยแม่สลอง ต.แม่สนองนอก จ.เชียงราย ก่อสร้างโรงแรมขนาดใหญ่จำนวนหลายแห่งมานาน และยังมีการบุกรุกก่อสร้างลุกลามไปทั่วดอยแม่สลองอย่างไม่หยุด โดยที่ข้าราชการรับผิดชอบต่างละเลยเพิกเฉยปล่อยให้มีการก่อสร้างการอย่างทั่วทั้งดอย โดยอ้างถึงอดีตเคยเป็นที่ความมั่นคงทหารดูแล ซึ่งก็ได้มีการคืนกรมป่าไม้เป็น สปก.เมื่อปี 2559 ซึ่งสร้างได้เพียงที่พักอาศัยในพื้นที่ทำกินทางการเกษตรเท่านั้น ไม่มีกฎหมายให้สามารถสร้างรีสอร์ท และโรงแรมได้ เมื่อเป็นข่าวเป็นที่สนใจของประชาชน
ต่อมานาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงค์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญกรรม ได้ให้ความสนใจนำเรื่องเข้าร้องเรียนต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.)เพื่อให้ตรวจสอบการกระทำผิดดังกล่าว บก.ปทส. โดย พ.ต.อ ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผู้กำกับการ4 บก.ปทส. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ บก.ปทส. เข้าประสาน พ.ต.ท.วิษณุ ยาแปงแก้ว รองผกก.สส.บก.ภ.เชียงราย ออกตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างโรงแรม รีสอร์ท ทั่วดอยแม่สลองที่ 33 แห่ง และเข้าขอข้อมูลการขออนุญาตก่อสร้างจากนายสันทัด ปลัด อบต.แม่สลองนอก 
ปรากฏว่า บนดอยแม่สลอง เป็นพื้นที่ป่าสงวนต้นน้ำ ในอดีตอยู่ในความดูแลของทหาร อนุโลมให้ให้กลุ่มทหารจีนกองพล 93 อยู่อาศัยทำกินปลูกพืชทางการเกษตรเท่านั้น ต่อมาปี 2554 ได้ประกาศเป็นพื้นที่ สปก. แต่ยังไม่ได้มอบให้เกษตรเป็นรายแปลง เนื่องจากมีผู้ครอบครองรายละหลายร้อยไร่ และมีผู้มากบารมีบางคน มีผลประโยชน์ร่วม ให้การช่วยเหลือ ทำให้การดำเนินการจัดสรรให้เกษตรตัวจริงไม่ได้ คงปล่อยเรื่องนิ่งเฉย ทำให้มีการลุกลามเร่งขยายบุกรุกป่า สร้างรีสอร์ทและไร่ชากันใหญ่โต มีการก่อสร้างทำโรงแรมที่พักไม่ได้รับอนุญาต ถึง 33 แห่ง ส่วนที่ได้รับอนุญาตมีเพียง 5 แห่ง ซึ่งออกโดยไม่ถูกต้อง ที่ดินสปก.ไม่มีกฎหมายอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรมได้ และไม่สามารถต่อใบอนุญาตได้ เพราะไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน
และการออกใบอนุญาตโฮมสเตย์ ไม่เกิน 5 ห้อง ให้กับนักลงทุนรายหนึ่ง แต่กลับมีการสร้างเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ระดับหลายสิบห้อง ทั้งที่เป็นพื้นที่ สปก. ใครเป็นคนอนุญาต และอนุญาตได้อย่างไร เป็นการผิดวัตถุประสงค์ของการใช้พื้นที่ สปก. ซึ่งเป็นการบุกรุกป่าสงวนอย่างเห็นได้ชัด 
มีผู้ร้องเรียนไปหานายอำเภอแม่ฟ้าหลวง และผู้ว่าราชการจังหวัดหลายครั้ง แต่จนบัดนี้นี้โรงแรมทั้งหมด ยังเปิดให้บริการและขยายการก่อสร้างไม่หยุด ล่าสุดมีผู้เข้าร้องเรียน ปปช.ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการที่รับผิดเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะมีการติดตามข่าวมาเสนอเป็นระยะต่อไป 
หมายเหตุ-ทหารคืนพื้นที่ให้กรมป่าไม้เมื่อปี 2552 – 2553 สปก.เข้ารางวัดขึ้นเป็นพื้นที่ สปก. ปี 2554 และแบ่งแปลงให้เกษรกรรายย่อยชาวบ้านไปประเมาณ 1000 ราย ส่วนกิจการร้านค้า รีสอร์ท ริมถนนสายหลัก และสวนชา ยังไม่มีการจัดสรร เพราะแต่ละเจ้ามีพื้นที่กันหลายร้อยไร่ เกินกว่ากฎหมาย สปก.ที่จะให้ได้ไม่เกินรายละ 50 ไร่ และโรงแรม รีสอร์ทผิดกฎหมาย เจ้าของจึงเร่งสร้างกันใหญ่ โดยมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจ เพิกเฉยไม่ดำเนินคดี ทั้งที่เห็นการกระทำผิดกฎหมาย กินกันมานานพุงกางไปตามกัน ทุกหน่วยงาน อ้วน ๆ กันทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบถ้วนหน้า บางรายมาอยู่แล้วไม่อยากย้ายไปไหน ไม่มีใครไปแตะต้อง ยังมีบางกลุ่มหลงตัว ประกาศเป็นพื้นที่อยู่ได้เฉพาะกลุ่มตน ทั้ง ๆ ที่เป็นแผ่นดินไทย ปัญหาจึงหมักหมมมานานหลายนายอำเภอ หลายผู้ว่าฯ ถึงเวลาสะสาง จัดระเบียบสังคมได้หรือยัง
