เชียงราย-วันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระศรีนครินพระครูบาบุญชุ่ม ญาณสัวโรได้จัดกิจกรรมปฏิบัติธรรมเพื่อรำลึกถึงสมเด็จย่าของปวงชนชาวไทยเพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 ก.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่สำนักปฏิบัติธรรมดอยเวียงแก้ว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสัวโร ใช้ปฏิบัติธรรม ได้จัดกิจกรรม เพื่อรำลึกถึงสมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เป็นประธานในพิธีปลูกต้นไม้ ตามโครงการปลูกป่าสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ซึ่งจังหวัดเชียงราย เป็นจังหวัดที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์เป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ การแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยมี พลเอก สุทัศน์ จารุมณี ประธานคณะกรรมการมูลนิธิดอยเวียงแก้ว นายพินิจ แก้วจิตคงทอง นายอำเภอเชียงแสน นายธวิท ติยะกว้าง ปลัดเทศบาลตำบลเวียง ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลเวียง อ.เชียงแสน มณฑลทหารบกที่ 37 นรข.เชตเชียงราย สำนักบริหารพื้นที่ 13เชียงราย หมวดการทางเชียงแสน กำนัน- ผู้ใหญ่บ้าน และจิตอาสาประชาชนทั่วไป จำนวนกว่า 1,000 คน ร่วมในพิธีปลูกต้นไม้กว่า 2,000 ต้น
นายธวิท ในฐานะรองประธานคณะกรรมการมูลนิธิดอยเวียงแก้ว กล่าวว่า ในวาระครบรอบวันคล้ายวันสวรรคตเป็นปีที่ 23 ของสมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย หลายภาคส่วนได้ร่วมพร้อมใจจัดกิจกรรมเพื่อถวายเป็นราชสดุดี น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน จึงได้จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ผืนแผ่นดิน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่ง พลเอกสุทัศน์ ได้แจกด้ายและลูกประคำ ของพระครูบาบุญชุ่มให้กับผู้มาร่วมปลูกต้นไม้กันทุกคน สร้างความฮือฮาให้กับทุกคนต่างเข้าแถวรับของดีของพระครูบากันคึกคัก
นายภาสกร กล่าวว่าการปลูกต้นไม้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ตามศาสตร์พระราชาของรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริว่าการปลูกป่าได้ประโยชน์ถึง 4 อย่างคือ ได้ไม้ผล ไม้สร้างบ้าน ไม้ฟืน และสามารถช่วยอนุรักษ์ดินและต้นน้ำลำธารด้วย และต้นไม้ที่ปลูกนี้มีทั้งไม้ผลและไม้ป่า พระครูบาบุญชุ่ม ท่านได้เข้าไปที่ ถ้ำหลวงถึง 3 ครั้ง ได้เจริญพระพุทธมนต์แผ่เมตตาจนทั้ง 13 คนออกมาได้อย่างปลอดภัย ต่อไปสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ จะกลางเป็นแหล่งท่องเที่ยว ของ อำเภอเชียงแสน และได้ใช้ประโยชน์ได้ตามที่พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร ต้องการให้พื้นที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางการปฏิบัติธรรม ซึ่งมีไร่เชิงตะวันของท่านพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี เป็นต้นแบบ
นอกจากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ยังได้กล่าวชื่นชมจิตอาสาว่า เป็นผู้ที่มีจิตเป็นกุศล จะเห็นได้จากการที่ 13 หมู่ป่าไปติดอยู่ในถ้ำร่วม 20 วัน จะเห็นว่าพวกจิตอาสาเข้ามาช่วยในหลากหลาย และเป็นกำลังสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยเจ้าหน้าที่ จนงานทุกอย่างสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว จิตอาสาเรา เข้มแข็งจริงๆ
