เชียงราย-ขนส่งเทิงตรวจเข้มรถปล่อยควันดำ ลดปัญหาฝุ่นควันพิษ PM 2.5 เจอเป็นปรับ สูงสุดถึง 5 หมื่นบาท
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 63 นายคงกกฤช หิรัญบวรวรรณ หัวหน้าสถานีขนส่งจังหวัดเชียงราย สาขาเทิง เผยว่า ปัจจุบันปัญหาฝุ่นควันพิษ PM 2.5 กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อสุขภาพของผู้คน เพราะเป็นฝุ่นควันที่มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมถึง 25 เท่า สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ ก่อเกิดผลเสียต่อสุขภาพหลายอย่าง สาเหตุส่วนหนึ่งก็เกิดจากการเผาในที่โล่ง ควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ สำนักงานขนส่งเทิงซึ่งเป็นหนึ่งในองค์การที่ควบคุมดูแลการใช้งานยานยนต์ในพื้นที่ก็ได้ตระหนักถึงสภาพปัญหาดังกล่าว ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จึงมีแนวคิดจะทำการตรวจจับรถยนต์ที่มีการปล่อยควันพิษเกินค่ามาตรฐาน ถือเป็นอีกหนึ่งมาตรการเพื่อควบคุมปริมาณฝุ่นพิษในพื้นที่ไม่ให้มีมากจนเกินไป
สำนักงานขนส่งเทิงได้มีการสุ่มตรวจควันไอเสียจากรถยนต์หลายครั้งในรอบปี ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้ทำการสุ่มตรวจรถยนต์ที่สัญจรบริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1020 หน้าสำนักงานขนส่งสาขาอำเภอเทิง ม.12 ต.เวียง อ.เทิง จ.เชียงราย ตั้งแต่เวลา 16.30-18.00 น. โดยทำการตรวจรถยนต์โดยสารจำนวน 13 คัน รถยนต์บรรทุกจำนวน 25 คัน ผลการสุ่มตรวจ พบรถบรรทุกที่มีค่ามลพิษ(ควันดำ) เกินกว่าค่ามาตรฐาน จำนวน 2 คัน จึงได้ทำการออกคำสั่งนายทะเบียนห้ามใช้รถคันดังกล่าว และทางผู้ประกอบการขนส่งได้ยินยอมชำระค่าปรับ และพบรถที่มีค่ามลพิษ(ควันดำ) เกือบเกินกว่าค่ามาตรฐาน จำนวน 4 คัน จึงได้ทำการว่ากล่าวตักเตือน
การตรวจสอบดังกล่าวให้ใช้เครื่องมือวัดความดันระบบแสงแบบไหลผ่านทั้งหมด (Full Flow Opacity) โดยค่าควันดำสูงสุดที่ทางราชการกำหนดคือไม่เกินร้อยละ 45 โดยวัดค่าควันดำ 2 ครั้ง ซึ่งจะต้องใช้ค่าสูงสุดที่วัดได้เป็นเกณฑ์ตัดสิน ถ้าควันดำที่วัดได้ 2 ครั้งแตกต่างกันเกินร้อยละ 5 ให้วัดค่าควันดำใหม่ 
อนึ่ง การที่มีการกำหนดค่าควันดำไม่เกินร้อยละ 45 นั้น เป็นไปตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก มาตรา 71 ประกอบมาตรา 148 ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท แต่กรมการขนส่งทางบกได้วางนโยบายให้ปรับเป็นเงินจำนวน 5,000 บาท ในความผิดที่กระทำครั้งแรก
