เชียงราย-หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 ลงพื้นที่พบปะผู้นำชุมชนประชาชน ร่วมมือแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 และรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID 19 โดยการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง
เรื่องที่ 15 มีนาคม 2563 กองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่พบปะพัฒนาสัมพันธ์กับผู้นำหมู่บ้าน, ชุมชน และประชาชนในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อประชาสัมพันธ์รณรงค์ขอความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และหมอกควันจากปัญหาไฟฟ้า โดยให้ประชาชนช่วยกันฉีดพ่นละอองน้ำในอากาศ และรดน้ำต้นไม้ทุกวัน เพื่อเพิ่มปริมาณความชื้นในอากาศ และลดปริมาณหมอกควันจากปัญหาไฟป่า พร้อมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนใช้หน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อเดินทางออกจากบ้านพักอาศัย เพื่อป้องกันมลพิษทางอากาศ และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID 19 ด้วย
ทั้งนี้ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 ยังคงติดตามสถานการณ์หมอกควันไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ยังคงทวีความรุนแรง ค่าฝุ่นละออง PM2.5 และ PM10 ยังพุ่งสูงเข้าขั้นวิกฤติในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในอำเภอแม่สาย ซึ่งอยู่ติดชายแดนประเทศเมียนมา และอำเภอเชียงแสน ฝั่งตรงข้าม สปป.ลาว ถูกปกคลุมด้วยควันพิษจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์และควันพิษจากการเผาในที่โล่งแจ้ง
ส่วนใหญ่ยังคงเป็นหมอกควันข้ามแดน ส่งผลให้สภาพท้องฟ้าและท้องถนนในตัวเมืองแม่สาย มองเห็นเป็นสีเทา ทัศนวิสัยการมองเห็นสั้นมาก ผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ และผู้ที่ใช้ชีวิตนอกบ้านต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน PM2.5 และเมื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวบนดอยเวา ก็ไม่สามารถมองเห็นเจดีย์ชะเวดากองจำลอง ในฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็กได้ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ณ.สถานีตรวจวัดหน้าสำนักงานสาธารณสุข อำเภอแม่สาย เช้าวันนี้ ค่า PM2.5 พุ่งสูงถึง 340 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วน PM10 อยู่ที่ 382 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงเกินค่ามาตรฐานกระทบสุขภาพประชาชน และเป็นปริมาณที่สูงสุดในประเทศติดต่อกันเป็นวันที่ 4 แล้ว
ส่วนในตัวเมืองเชียงราย ที่สถานีตรวจวัด หน้าสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เขตเทศบาลนครเชียงราย ค่าฝุ่น PM2.5 วัดได้ 232 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร PM10 พุ่งสูงถึง 283 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ทำให้จังหวัดเชียงรายทั้งเมือง กลายเป็นเมืองในหมอก ฝุ่นควันพิษปกคลุมไปทั่วโดยเฉพาะในอำเภอแม่สาย เชียงแสน เชียงของ แม่ฟ้าหลวง และอำเภอแม่จัน ส่วนใหญ่จะเป็นหมอกควันลอยข้ามแดน เพราะในพื้นที่จังหวัดเชียงรายยังคงมีมาตรการห้ามเผาอย่างเข้มงวด
ทางจังหวัดยังคงแจ้งเตือนประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ เด็กเล็ก หากไม่จำเป็นขอให้งดออกจากบ้าน ถ้ามีความจำเป็นต้องออกไปต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการสูดดมหมอกควัน รวมทั้งงดออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: