เชียงราย-ชาวบ้านนับร้อย นั่งชุมนุมกันไม่เว้นระยะห่าง นั่งรอรับของบริจาคกว่า 500 ชุด ไม่หวั่น พ.ร.ก.และไม่หวั่นการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่รู้ใครมาจากไหนบาง “จะได้บุญหรือจะได้ไวรัส”
วันที่ 3 พ.ค.2563 ชาวบ้านจำนวนมากนับร้อย มานั่งหน้าร้านรสเด็ด ใกล้บริเวณหน้าด่านพรมแดนสะพานไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 หลังจากทราบข่าวว่าจะมีการบริจาคข้าวสารอาหารแห้งจำนวน 500 ชุด ชาวบ้านที่นั่งรอก่อนที่จะมีการแจก ไม่ได้มีการเว้นห่างระยะ นั่งกระจุกอยู่ด้วยกันที่เดียวเป็นจำนวนมาก โดยไม่เกรงกลัวหากมีการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 บางรายก็ไม่ได้ปิดสวมหน้ากากป้องกัน ไม่หวั่น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นภาพก่อนที่จะมีผู้ใจบุญนำข้าวสารหาหารแห้งมาแจก นั่งรอกันเต็มแต่ไม่เห็นหน่วยงานรับผิดชอบเข้ามาเตือน
แต่เวลามีการแจก จะยืนเป็นระเบียบดี มีการเว้นระยะ แล้วแบบนี้หากมีการแพร่ระบาดจริงคงติดกันไปทั้งหมู่ ร่วมไปถึงคนแจก และทราบว่าการแจกข้าวสารอาหารแห้งในครั้งนี้มี 500 ชุด ชาวบ้านจึงแห่กันมารอรับของบริจาค ส่วนใหญ่คนที่มารอรับแจก ไม่ได้มีการคัดกรองก่อนที่จะรับแจก มีชาวบ้านในพื้นที่ 70 เปอร์เซ็นต์ มีแรงงานเมียนมา 30 เปอร์เซ็นต์ ที่รวมตัวการรับบริจาค จากการสอบถามชาวบ้านที่มารอรับแจก ทราบว่าได้รับข่าวสารจากกลุ่มเฟชบุ๊ค ว่าจะมีผู้ใจบุญนำข้าวสารอาหารแห้งมาแจกในวันที่ช่วง 13.00 น.จำนวน 500 ชุด มีการนัดหมายว่าจะมีการแจกที่บริเวณหน้าร้านรสเด็ด จึงได้มานั่งรอตามที่ระบุผ่านโลกโซเชียล แล้วไม่กลัวการนั่งชุมนุมกันจำนวนมาก ชาวบ้านกล่าวว่าหากมีผู้ใจบุญแจก ก็จะรีบเข้าแถวกัน
แต่จากการสังเกตเบื้องต้นไม่มีการจัดการบริหารก่อนแจกข้าวสารอาหารแห้งร่วงหน้า และผิดกฎ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ควบคุมโรคแพร่ระบาด และชาวบ้านที่มารอเป็นแรงงานต่างชาติ ติดชายแดน ไม่รู้ว่าอาจมีบางรายลักลอบข้ามน้ำมารับของบริจาค ก็ไม่สามารถทราบได้ เนื่องจากแรงงานบางรายมีญาติพี่น้อง อาศัยพักพิงในเขตแม่สาย จึงอย่างเรียนหน่วยงานและผู้ใจบุญ ก่อนจะนำสิ่งของแจก ควรมีการจัดการก่อนที่ชาวบ้านจะรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก หวั่นมีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซ้ำซ้อนได้ เหตุชาวบ้านไม่ได้สน ไม่หวั่น หวั่นแต่กลัวจะไม่ได้รับของบริจาคเท่านั้น ก่อนรับของบริจาค และช่วงรับบริจาค แต่ต่างกันมาก
