เชียงราย-เฝ้าระวังขบวนการนำแรงงานเมียนมาลอบข้ามน้ำสาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังต้องคุมเข้มการลอบข้ามแดนมาฝั่งไทย สร้างรายได้ให้ผู้รับจ้างนำข้าม
20 มิ.ย.2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก ปชช.เบาะแสขบวนการลักลอบนำแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านข้ามน้ำสายมาฝั่งไทย ถี่มากขึ้นในระยะนี้ ตามที่มีประชาชนแจ้งร้องเรียนว่า ขณะนี้มักมีประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้าน สหภาพเมียนมาร์ ลักลอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติที่มีลำน้ำสายกั้น ข้ามมายัง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อหางานทำ เนื่องจากด่านพรมแดนหลักยังปิด ถึงแม้มีข่าวว่ากำลังมีการเร่งพิจารณาเปิดด่านหลักและจุดผ่อนปรนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ หลังจากการปิดด่านมาเกือบสามเดือน
โดยขบวนการจะรับจ้างพาแรงงานเมียนมา เดินลุยแม่น้ำสายที่ไม่ลึกมากนักข้ามมายังฝั่งไทย ตรงข้ามบ้านสันทรายใหม่ เส้นทางเข้าซอย 4 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จากนั้นพาเดินมาขึ้นรถยนต์เก๋งจอดรอไม่ห่างไกลจากท่าน้ำ ไปส่งยังจุดต่างๆ เช่น ตลาดสันทราย ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยแรงงานต้องจ่ายค่านำพาข้ามน้ำ คนละ 3000- 5,000 บาท
ผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจตามที่ได้รับแจ้งแบาะแส พบว่า บริเวณท้ายซอย ทิศเหนือ ซี่งหากจากถนนสาย แม่สาย-เกาะช้าง ราว 1 ก.ม. เป็นพรมแดนไทย-เมียนมาร์ ที่มีแม่น้ำสายกั้นกว้าง ราว 5-6 เมตร เท่านั้น ซึ่งมีการเปิดทางให้เป็นช่องคนเดินข้ามลงไปยังท่าน้ำ และมีรอยเท้าคนย่ำไปมา ฝั่งไทย เป็นนาข้าว และสวนหอมแดง ส่วนฝั่งพม่าพบว่าเป็นชุมชน จ.ท่าขี้เหล็ก มีตึกรามบ้านช่อง จำนวนมาก ฝั่งไทยพบว่ามีชาวบ้าน ทำการเกษตรอยู่ริมพรมแดนเป็นกลุ่ม แต่ฝั่งเมียนมาไม่ค่อยเห็นผู้คนมากนัก ขณะไปสำรวจผู้สื่อข่าวไม่พบมีการลอบข้ามแดน และไม่พบเจ้าหน้าที่ มีข้อสังเกตว่า ห่างจากพรมแดนแค่ 100 เมตร มีศาลาไม้ มีหญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ดูความเคลื่อนไหว และ ไม่ไกลมากนักพบบ้านมีรถยนต์คล้ายกับที่ได้รับแจ้งจอดอยู่ 
จากการสอบถามชาวบ้านคนหนึ่งที่ทำเกษตรอยู่บริเวณนั้น เล่าว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนทางเจ้าหน้าที่ทหารได้นำกำลังจับกุมแรงงานชาวเมียนมาร์ได้หลายคน แต่ห่างจากจุดนี้ไปทางทิศใต้หลาย ก.ม. คงต้องฝากเจ้าหนีที่เข้าสอดส่องดูแล หวันการลักรอบเข้ามาไม่ถูกต้อง อาจจะเป็นการแพร่เชื้อไวรัสได้ และยังอาจจะเป็นช่องทางข้ามคนผิดกฏหมาย หนีคดีอาจจะใช้ช่องทางดังกล่าวได้
