เชียงราย-แรมโบ้อีสาน สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บุกภาคเหนือ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “คืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดง สู่หมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นไทย เรารักประเทศไทย ภาคเหนือ 17 จังหวัด” ที่ ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย พร้อมเชิญชวนเดินหน้าทำงานร่วมรัฐบาลต่อ สู้ไวรัสโควิด-19 เจอกลุ่มเสื้อแดงมาดักถามคำสัญญาในอดีต แต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร
เมื่อวันที่ 11 ก.ค.นี้ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “คืนป้ายหมู่บ้านเสื้อแดง สู่หมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นไทย เรารักประเทศไทย ภาคเหนือ 17 จังหวัด” มี นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย นายสมชัย แสงทอง ประธานเครือข่ายฯภาคเหนือ ได้นำกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ และเคยก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทยร่วมกันมาในอดีตหลายปีก่อน จัดขึ้นที่อาคารศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือจีเอ็มเอส ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย
นายสุภรณ์ ได้นำทั้งหมดกล่าวปฏิญาณตนที่จะเทิดทูนชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมระบุว่าจะลืมสิ่งต่างๆ ที่เคยกระทำมาในอดีตหันมาสามัคคีปรองดองเพื่อพัฒนาประเทศไทยร่วมกัน จากนั้นได้มีการจัดให้กลุ่มที่เคยจัดตั้งเป็นหมู่บ้านเสื้อแดงในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ นำป้ายที่เคยได้รับมอบในอดีตมาคืนเพื่อรับป้ายกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นไทย สำหรับนำไปพัฒนากลุ่มแทนต่อไป
ในอดีตมีการตั้งเครือข่ายหมู่บ้านเสื้อแดง ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นไทย เรารักประเทศไทย เกิดจากการที่นายอานนท์ ได้รวบรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเสนอต่อรัฐบาลว่ากลุ่มในหมู่บ้านเสื้อแดงกว่า 3,000 กลุ่มจาก 28,000 หมู่บ้าน ต่างได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 จึงต้องการให้รัฐบาลสนับสนุน เพราะปัจจุบันพวกเราไม่มีสีเสื้ออีกต่อไปแล้ว มีแต่ธงชาติไทยเท่านั้น ย้ำว่าเราไม่มีเวลาที่จะไปเล่นการเมืองข้างถนน เพราะเราต้องพัฒนาประเทศให้ไปสู่ความก้าวหน้าและประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเท่านั้น สำหรับตนก็ยืนยันว่าไม่ได้ทรยศหักหลังใคร คิดเพียงอย่างเดียวคือประเทศชาติและประชาชนจึงมุ่งคิดเพียงว่าจะทำอย่างไรที่จะดูแลให้ประชาชนได้มีความเป็นอยู่ที่ดีและมีอาชีพรายได้
นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่าการเคลื่อนไหวในอดีตทำให้มีทั้งคนติดคุกและได้ดิบได้ดี ซึ่งตนเห็นว่ามันเป็นอดีตไปแล้ว ปัจจุบันเราไม่มีเวลามาสร้างความแตกแยกและถอยหลังลงคลองอีก เราต้องการความสามัคคีเพื่อให้เกิดเสถียรภาพของรัฐบาลและสามารถนำไปสู่การสนับสนุนประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มวิสาหกิจชุมชนให้มีความอยู่ที่ดีโดยไม่ต้องเดือดร้อนกันอีก
กิจการในวิสาหกิจชุมชน ก็เป็นสิ่งที่พวกเราคิดพัฒนากันเอง และสามารถอยู่ในฐานะคนไทยตามหลักกฎหมายอย่างเสมอภาค ซึ่งไม่เหมือนการเป็นหมู่บ้านเสื้อแดงที่มักถูกจับตามองจากเจ้าหน้าที่ที่ดูแลด้านความมั่นคง และทาง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐนตรี ก็ได้ให้การบ้านตนในการรวบรวมคนไทยทุกคนเพื่อให้มีพลังเป็นหนึ่ง “รวมไทยสร้างชาติ”
พวกเราต้องหันมาคิดใหม่ทำใหม่ แม้จะมีคนเคยกล่าวหาตนจัดทำโครงการขึ้นเพื่อจะนำงบประมาณจากรัฐบาลมาใช้ส่วนตัว ตนก็ขอบอกว่าเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดเพราะการใช้งบประมาณสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนเป็นไปตามระบบของทางราชการ อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าก่อนการประชุม กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงได้มาทวงถามคำมั่นสัญญาต่างๆในอดีต จาก นายสุภรณ์ หรือ แรมโบ้อีสาน บริเวณทางเข้างาน ซึ่งมีการห้อมล้อม นายสุภรณ์ แต่ นายสุภรณ์ ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรมาก ทำให้ไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงอะไร
