เชียงราย-แรงงานเมียนมา แห่เดินทางกลับบ้าน ผ่านด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย แห่งที่ 2 เนืองแน่นมากสุดวันนี้ 420 คน เผยเพราะไม่มีงานทำ จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สู้ค่าครองชีพในไทยไม่ไหวขอกลับไปตายดาบหน้าที่บ้านเกิด บางรายเรียนจบก็ได้เวลากลับไปหางานทำฝั่งเมียนมาด้วย
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 4 ส.ค. 2563 พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน ผกก.ตรวจคนเข้าเมือง จ.เชียงราย พร้อม นายซอ มิน ทวย ทูตแรงงานเมียนมาร์ ประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา,เจ้าหน้าที่ ประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา (TBC) , ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย , กองควบคุมโรคระหว่างประเทศ,จิตชมรมอาสา ได้ส่งตัวแรงงานเมียน กลับประเทศเมียนมาทางด่านศุลกากร อ.แม่สาย แห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย-ตรงข้าม จ.ท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนมา โดยครั้งนี้ถือว่ามีจำนวนมากที่สุด โดยมีการคัดกรอง ที่ศูนย์ประสานงานและรับลงทะเบียน หน้าวัดปิยะพร ต.แม่สาย อ.แม่สาย 420 คน แล้วลำเลียงด้วยรถสองแถวทยอยข้ามพรมแดนไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนมา 
ส่วนมากเป็นแรงานที่อยู่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทยและต้องการกลับบ้านเกิดเมืองนอน เนื่องจากอยู่ประเทศไทยช่วงนี้ สถานประกอบการต่างๆ ปิดกิจการจากการเฝ้าระวังไวรัสโควิด – 19 จึงทำให้ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้เลี้ยงชีพอีกต่อไป นางปุ๊กกี้ อายุ 37 ปี ชาวเมียนมา พร้อมลูกน้อยอายุ 1 ขวบเศษ ที่จะกลับบ้าน กล่าวว่า ก่อนหน้ามาทำงานเป็นแม่บ้านที่ กทม.มาหลายปี แต่ตอนนี้ไม่มีงานทำเลย จึงขอพาลูกกลับบ้านที่เมืองปางหลง สหภาพเมียนมา เพื่ออาศัยหากินประทังชีวิต หากอยู่ในไทยคงไม่มีอะไรจะกินและเลี้ยงลูก ขอกลับไปตายดาบหน้าที่บ้านเกิด อาจจะพอมีบ้านอยู่มีอาหารกิน ส่วนสามีตนยังไม่กลับเพราะพอมีงานอยู่ แต่ถ้าไม่ไหวคงจะกลับตามมา ซึ่งหากยังมีงานตนก็ไม่อยากกลับแต่สู้ค่าครองชีพไม่ไหว
จึงมาลงทะเบียนที่ อ.แม่สาย เมื่อวันที่ 23 ก.ค.นี้ และได้กลับบ้านในวันนี้ นายวิน อายุ 30 ปี กล่าวว่าตนมาเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน กทม.และเรียนจบแล้วจึงอยากกลับบ้านที่ จ.ท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนมา และคงจะหางานทำที่ประเทศสหภาพเมียนมา เลย คงไม่กลับมาประเทศไทยในช่วงนี้แล้ว และคิดว่าที่สหภาพเมียนมา ก็ปลอดภัยจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 จึงมาลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เมื่อ 3 วันก่อน แล้วได้กลับในวันนี้รู้สึกดีใจ 
แรงงานเมียนมา ที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศเมียนมา ต้องมีหนังสือประจำตัวที่ออกโดยเอกอัครราชทูตเมียนมา หรือแจ้งไปยังสถานทูตเมียนมา ประจำประเทศไทยหรือจุดประสานงานสำหรับช่วยเหลือแรงงานและรับลงทะเบียนให้แรงงาน กรณีที่บางคนไม่รู้หนังสือ ให้ติดต่อที่จุดประสานงาน อำเภอแม่สาย มีอยู่ 2 จุด จุดแรก ที่ชมรมกรุณาจิตอาสา ติดวัดไม้ลุงขน ต.แม่สาย จุดที่สอง โรงเรียนสอนธรรมะ หน้าวัดปิยะพร อ.แม่สาย หากแรงงานไม่ได้ทำการลงทะเบียนไว้ก่อน จะไม่สามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางได้ ทุกคนจะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขที่กองควบคุมโรคระหว่างประเทศได้วางมาตรการไว้คือ ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและต้องผ่านการคัดกรอง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
