เชียงราย-กอ.รมน.จังหวัดเชียงราย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 ร่วมจับมือระดมกำลังกู้ ‘แม่โขงเดลต้า’ ในปฏิบัติการรวมใจเป็นหนึ่ง Water Rescue ดึงเรือท่องเที่ยวจมแม่น้ำโขง ตั้งลำได้แล้ว เล็งใช้เครนยกขึ้นพ้นน้ำ ซึ่งทุกฝ่ายร่วมมือร่วมแรงกันอย่างเต็มที่ ฝ่าฟันอุปสรรคทุกรูปแบบในแม่น้ำโขง
เรือแม่โขงเดลต้า ซึ่งเป็นเรือท่องเที่ยวแม่น้ำโขงสัญชาติไทยลำแรกในแม่น้ำโขง ขนาด 107 ตันกรอส ยาว 40 เมตร กว้าง 5.50 เมตร บรรทุกผู้โดยสารได้ 120 ที่นั่ง จมลงจากพายุฝนทำน้ำเชี่ยวพัดสายผูกหัวเรือขาดเรือขวางลำน้ำและมีน้ำฝนในเรือมากจนพลิกตะแคงจมในแม่น้ำโขงชายแดนไทย – สปป.ลาว บริเวณบ้านป่าสักหางเวียง หมู่ 3 ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมานั้น 
พันเอก พักตร์พงษ์ เงสันเที๊ยะ หัวหน้ากลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าวกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย พันเอก ชาตรี สงวนธรรม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 กองกำลังผาเมือง, พันเอก ชาตินักรบ พรศิริรัตน์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 นำกำลังพล พร้อมยุทโธปกรณ์ ร่วมระดมกำลังทุกฝ่ายทั้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดเชียงราย, ฝ่ายปกครอง, ตำรวจน้ำ,นรข. เขตเชียงราย,สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขา เชียงราย,ตม. เชียงแสน, การท่าเรือแห่งประเทศไทย ,ตชด.32 และ ประชาชนจิตอาสาภัยพิบัติ ปฏิบัติภารกิจช่วยกู้เรือท่องเที่ยวที่ล่มอยู่ในแม่น้ำโขง ในปฎิบัติการ ”รวมใจเป็นหนึ่ง”Water Rescue กู้เรือแม่โขงเดลต้า ของ บ.แม่โขงเดลต้า ทราเวล เอเยนซี่ จำกัด ที่น้ำโขงพัดตะแคงจม ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2563 เข้าวันที่สองของปฎิบัติการ 
ในวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่มาขึงเชือกกับฝั่ง เพื่อไม่ให้เรือลอยไปกับกระแสน้ำ และพยายามดึงให้เรือเข้ามาใกล้ฝั่งมากที่สุด เพื่อที่จะให้ง่ายต่อการใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ที่จะมายกเรือขึ้น แต่เรือมีน้ำหนักถึง 107 ตัน และยังมีน้ำและตะกอนทรายอยู่ในเรือเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ไม่สามารถกู้เรือได้ โดยเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยกว่า 100 คน เริ่มปฏิบัติภารกิจกู้ซากเรือกันอีกครั้งตั้งแต่ช่วงเช้า 
ล่าสุด เวลา 14.45 น.วันที่ 10 ส.ค.เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ประสานความร่วมมือและดึงเรือที่นอนตะแคงตั้งลำขึ้นมาอยู่ในทรงปกติ แต่มีน้ำขังในเรือทำให้เรือจม เห็นตัวเรือชั้น 2 โผล่พ้นน้ำขึ้นมา สร้างความดีใจกับทีมงานทุกคนต่างส่งเสียงโห่ร้องดีใจ เพราะถือว่างานยากได้สำเร็จในระดับหนึ่งไปแล้ว จึงพยายามซักลากเรือขึ้นฝั่งต่อ แต่ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากแม่น้ำโขงไหลเชี่ยวและเรือมีน้ำหนักมาก ทำได้เพียงลากเรือมาเกยตื้นริมฝั่งให้มากที่สุด และเตรียมใช้รถยกเครน ยกเรือมาไว้ริมฝั่ง
ซึ่งต่อจากนี้แผนการปฎิบัติจะดึงเรือเข้ามาใกล้ฝั่ง ให้รอให้น้ำลดจนถึงระดับ หรืออีกแผน อาจใช้ปั๊มน้ำแก้ไขอุทกภัยหัวสูบขนาด 3 ตัน มีสายระยะ 60 เมตร กำลังสูบ ขนาด 50,000 ลิตร ต่อนาที สูบน้ำออก หากเรือลอยแล้วถึงลากเรือให้เข้าที่ จึงยังรอดูวิธีการที่ดีที่สุดก่อน แต่ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
และล่าสุด นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จังหวัดเชียงราย ได้อนุมัติให้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่สนับสนุนคาดว่าจะนำเรือขึ้นมาตรวจสอบได้ แต่หากไม่ได้ผลก็มีแผนการถัดไปคือ จะใช้เรือกาสะลอง 1 และเรือกาสะลอง 2 ที่มีขนาด 2 เครื่องยนต์ ความแรงกว่า 670 แรงม้า ทำการดันร่วมกับใช้เครนและกำลังพลของเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ต่อไป
