เชียงราย-ป.ป.ช.เชียงราย นำสมาชิกชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ากรณีการรุกล้ำหนองหลวง มีพื้นที่ครอบคลุม 3 อปท. 2 อำเภอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19-20 ส.ค. 63 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จังหวัดเชียงราย และสมาชิกชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดเชียงราย จำนวน 50 คน ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่สาธารณะ กรณีอ่างเก็บน้ำธรรมชาติ “หนองหลวง” ณ เทศบาลตำบลสิริเวียงชัย อ.เวียงชัย จ.เชียงราย
“หนองหลวง” เป็นแหล่งน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ติดต่อ 2 อำเภอของจังหวัดเชียงราย คือ อ.เวียงชัย และ อ.เมืองเชียงราย ครอบคลุมอาณาเขต 9,916 ไร่ อยู่ในเขตรับผิดชอบของ อปท. 3 แห่ง คือ เทศบาลตำบลสิริเวียงชัย อบต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย และ เทศบาลตำบลห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย ที่ผ่านมามีการร้องเรียนว่าพบการบุกรุกพื้นที่หนองหลวงกว่า 7,000 ไร่ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตรับผิดชอบของเทศบาลตำบลห้วยสัก ซึ่งพบการรุกล้ำกว่า 5,000 ไร่ และมีการร้องเรียนมาแล้วหลายหน่วยงาน จนกระทั่งล่าสุดทางสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดเชียงราย รับเรื่องดังกล่าวไว้ดำเนินการตั้งแต่เมื่อปี 2561 โดยนายณภัทร เตโช ผอ.ป.ป.ช. จังหวัดเชียงราย ได้เร่งให้แต่ละอปท.ดำเนินการเชิงรุกเพื่อดำเนินคดีกับผู้รุกล้ำหนองน้ำสาธารณะดังกล่าว พร้อมทั้งเตรียมดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ให้ถึงที่สุด
นายประเวช ราชชมภู นายกเทศมนตรีตำบลสิริเวียงชัย เผยว่า ในพื้นที่ของ ทต.สิริเวียงชัย แต่เดิมชาวบ้านได้มาทำมาหากินบริเวณพื้นที่หนองหลวง ต่อมามีกลุ่มนายทุนและผู้มีอิทธิพลที่เล็งเห็นถึงผลประโยชน์ในพื้นที่หนองหลวงซึ่งมีระยะทางห่างตัวเมืองเชียงรายเพียงแค่ประมาณ 15 กม. ได้เข้ามากว้านซื้อทึ่ดินจากชาวบ้าน นายทุนบางรายมีการถือครองที่ดินตั้งแต่ 10- 60 ไร่ หลังจากทางเทศบาลได้ดำเนินการเจรจากับชาวบ้านที่รุกล้ำที่ดินหนองหลวง ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้ให้ความร่วมมือกับเทศบาล โดยดำเนินการรื้อถอนร้านค้าและบ้านเรือนออกจากพื้นที่ มีเพียง 12 รายที่มีปัญหา จึงส่งดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.เวียงชัย จากการดำเนินการในชั้นพนักงานสอบสวนมี 10 รายที่ยอมออกจากพื้นที่ เหลือที่เป็นปัญหาอีก 2 ราย รายแรกเป็นสวนยางพารา เจ้าของเจรจาขอตัดต้นยางพาราก่อนย้ายออกจากพื้นที่ ส่วนรายที่ 2 ทำเป็นสวนมะกอก ยังไม่มีความคืบหน้าจากพนักงานสอบสวน
ข่าวน่าสนใจ:
- ระทึก เพลิงไหม้บ้าน 2 ชั้นวอดทั้งหลัง น้องแมว 7 ชีวิต รอดตายหวุดหวิด โดย 3 ตัวโดนไฟลวกบาดเจ็บ
- ปป.แม่สายทานมูมมามจนลืมตัว เรียกเก็บเงินแบบไม่อาย แต่ต่อรองราคาได้
- ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย เชิญส่วนราชการ เอกชน สื่อมวลชน 50 คน เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนกระตุ้นการท่องเที่ยว-เศรษฐกิจในชุมชน อย่างยั่งยืน
- ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ เล็งจับเข่าหารือพัฒนา "เลยดั้น" พร้อมเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวน้ำหนาว
“หลังจากได้รับคืนพื้นที่มาจากนายทุน ทางเทศบาลได้ทำหลักหมุดขนาดใหญ่มาปักคู่กับหลักเขตของกรมที่ดิน เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายหลักหมุด รวมถึงการปิดป้ายประกาศห้ามรุกล้ำพื้นที่หนองหลวงพร้อมบทกำหนดโทษในที่ที่ประชาชนสามารถเห็นได้ชัดเจนแล้ว ส่วนพื้นที่ที่ได้รับคืนทางเทศบาลได้นำไปพัฒนาในรูปแบบต่างๆ เช่น จัดสวนหย่อม สร้างเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์พืชและสัตว์น้ำ ตลาดนิเวศน์ชุมชน ฯลฯ เป็นต้น เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอเวียงชัยในอนาคต” นายประเวชกล่าว
ด้าน อบต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย พบว่ามีปัญหาการรุกล้ำหนองหลวงในพื้นที่บ้านสมานมิตร ม.1 ผลการตรวจสอบพบว่าเคยมีการเคลื่อนย้ายหลักหมุดของกรมที่ดินออกห่างจากจุดเดิมประมาณ 100 เมตร และต่อมามีผู้จับจองสร้างที่อยู่อาศัย ร้านค้า รวมจำนวน 9 ราย ทาง อบต.ได้ดำเนินการฟ้องร้องไปที่ศาลแขวงเชียงราย จนกระทั่งมีคำพิพากษาให้ดำเนินการรื้อถอนและให้ย้ายออกจากพื้นที่แล้ว 2 ราย และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีอีก 7 ราย
ส่วน ทต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย มีปัญหาความไม่ชัดเจนในพื้นที่ทับซ้อนกับ ทต.สิริเวียงชัย จึงไม่สามารถดำเนินการไดๆได้ เพราะเกรงจะมีปัญหาทางข้อกฏหมาย แต่ในส่วนที่ไม่เป็นที่ทับซ้อนทางเทศบาลได้ขอความร่วมมือผู้ที่รุกล้ำพื้นที่ให้ย้ายออกไปแล้ว ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่สำหรับเลี้ยงควายของชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน คือ ม.3 และ ม.20 ซึ่งแต่ละหมู่บ้านมีควายที่เลี้ยงในหนองหลวงประมาณหมู่บ้านละ 300 ตัว รวมเป็นจำนวน 600 กว่าตัว ซึ่งทางเทศบาลได้แก้ปัญหาโดยจัดหาพื้นที่สำหรับเลี้ยงควายไว้ให้ชาวบ้านแล้ว
ในวงเสวนาซึ่งมีตัวแทนจาก 3 อปท. ที่ดินจังหวัด ป.ป.ช. และชมรมSTRONG ได้ข้อสรุปแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกันคือ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเชียงรายร่วมกับ ทต.สิริเวียงชัย และทต.ห้วยสัก จะประสานการปฏิบัติงานในระดับเจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจสอบหลักหมุดแนวเขตที่ยังไม่มีความชัดเจนซึ่งมีพื้นที่คาบเกี่ยวเกี่ยวระหว่าง ต.สิริเวียงชัยและต.ห้วยสัก เมื่อได้ความชัดเจนแล้ว อปท.เจ้าของพื้นที่จะดำเนินการในวิธีการต่างๆ เพื่อให้เอกชนผู้ครอบครองที่ดินในเขตคาบเกี่ยวซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะออกนอกพื้นที่ หากไม่สามารถพิสูจน์หรือหาข้อยุติว่าพื้นที่คาบเกี่ยวดังกล่าวเป็นของ อปท. ใด อาจมีการตั้งคณะทำงานหรือเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่วนปัญหาหลักหมุดที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ อบต.ดอนศิลา ที่ดินจังหวัด และอบต.ดอนศิลา จะได้ประสานงานกันเพื่อหาความชัดเจนและวางหลักหมุดในจุดที่ถูกต้องต่อไป
สำนักงาน ปปช.เชียงรายและชมรมSTRONGฯ จะทำหน้าที่ในการติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และจะมีการติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาอีกครั้งในวันที่ 11 ก.ย. ที่จะถึงนี้ ซึ่งกรณีการรุกล้ำพื้นที่หนองหลวงนี้คาดว่าจะสามารถจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ.2564
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: