เชียงราย-ผญบ.ผาหมี อ.แม่สาย เชิญเที่ยว ประเพณีโล้ชิงช้า” วันที่ 28-29 ส.ค.63 นี้ บริเวณลานซอย 3 ดอยผาหมี เป็นการรำลึกถึงพระคุณแห่งเทพธิดา “อึ่มซาแยะ”ผู้ประทานความชุ่มชื้นอุดมสมบูรณ์ให้กับพืชพันธุ์ธัญญาหาร และเพื่อเป็นการฉลองให้กับพืชผล ที่มีความเจริญงอกงามรอเก็บเกี่ยว ไฮไลท์สำคัญคือการ โล้ชิงช้า ส่งเสริมกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงคลายล็อคไวรัสโควิด-19
นายชาญยุทธ รุ่งทวีพิทยากุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านผาหมี ตำบลเวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 28-29 สิงหาคม 63 นี้ ทางหมู่บ้านดอยผาหมี ร่วมกับ เทศบาลตำบลเวียงพางคำ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม “ประเพณีโล้ชิงช้า” หรือ งานเทศกาลปีใหม่โล้ชิงช้าของชาวอาข่า จัดบริเวณลานซอย 3 ดอยผาหมี เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณแห่งเทพธิดา “อึ่มซาแยะ” ผู้ประทานความชุ่มชื้นอุดมสมบูรณ์ให้กับพืชพันธุ์ธัญญาหาร และเพื่อเป็นการฉลองให้กับพืชผลที่มีความเจริญงอกงามรอเก็บเกี่ยว รำลึก และให้เกียรติสตรี มี พิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ, การเลี้ยงฉลอง, การเต้นรำ
ไฮไลท์สำคัญคือการ โล้ชิงช้า ซึ่งจะใช้เชือกผูกกับเสาไม้ที่มีความยาวสูงหลายเมตร แล้วให้คนขึ้นไปโหนเชือกแล้วแกว่งไปมาให้สูงที่สุด สร้างความตื่นเต้นสนุกสนาน ซึ่งแต่ละชุมชนจะไม่ตรงกัน เนื่องจากการกำหนดวันจัดพิธีกรรมต้องดูความเหมาะสมของวันที่จะเริ่มทำพิธี แต่จะต้องเป็นวันดี และเข้ากันได้กับผู้นำชุมชนนั้นๆ ซึ่งคาดว่าปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวสนใจมาเที่ยวชมงาน และเป็นการ ส่งเสริมกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงคลายล็อคการเฝ้าระวังไวรัสโควิด-19 ด้วย
โดยดอยผาหมี มีร้านอาหาร ร้านกาแฟรสเยี่ยม และที่พักโฮมสเตย์มากมายไว้รองรับพร้อมสรรพ ใกล้กันยังเดินทางไปเที่ยวต่อดอยผาฮี้ และ อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) และด่านพรมแดน อ.แม่สาย ได้ด้วย พร้อมมีมาตรการเฝ้าระวังเว้น ระยะห่างทางสังคม (Social distancing) ในการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ (New Normal) ด้วย 
ประเพณีโล้ชิงช้า หรืออ่าข่าเรียกว่า “แย้ขู่อ่าเผ่ว” เป็นการให้ความสำคัญกับผู้หญิง ฉะนั้น ผู้หญิงอาข่ามีการแต่งกายด้วยเครื่องทรงต่างๆ อย่างสวยงามที่เตรียมเอาไว้ตลอดทั้งปีมาสวมใส่เป็นกรณีพิเศษในเทศกาลนี้ สำหรับหญิงอาข่าจะแต่งกายเพื่อยกระดับชั้นวัยสาวตามขั้นตอน แสดงให้คนในชุมชนได้เห็นพร้อมทั้งขึ้นโล้ชิงช้า แล้วต้องร้องเพลงทั้งลักษณะคู่และเดี่ยวอีกด้วย
ประเพณีโล้ชิงช้าจัดขึ้นเพื่อเป็นการฉลองพืชพรรณที่จะเก็บเกี่ยวไว้บริโภค เนื่องจาพืชไร่พืชสวนต่างๆ ที่ปลูกลงไปพร้อมที่จะได้ผลผลิตแล้ว โดยมีสุภาษิตกล่าวไว้ว่า “ขู่จ่า หม่าโบะ หม่าโบะ” ซึ่งมีความหมายว่า ประเพณีโล้ชิงช้ามีอาหารหลากลาย และสมบูรณ์นั่นเอง ชาวอาข่าได้สืบทอดประเพณีนี้มาเป็นเวลา 2,700 กว่าปีแล้ว
ปัจจุบันประเพณีโล้ชิงช้าจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคม และต้นเดือน กันยายน ตรงกับช่วงที่ผลผลิต กำลังงอกงาม และพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวในอีกไม่กี่วัน ในระหว่างนี้อ่าข่าจะดายหญ้าในไร่ข้าวเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากดายหญ้าแล้วก็รอสำหรับการเก็บเกี่ยว ตรงกับเดือนของอาข่าคือ “ฉ่อลาบาลา” ประเพณีโล้ชิงช้าของชาวอาข่า ถือเป็นพิธีกรรมที่มีคุณค่ามากด้วยภูมิปัญญาที่ใช้ในการส่งเสริมความรู้แล้ว ยังเกี่ยวพันกับการดำรงชีวิตประจำวันของอ่าข่าอีกมากมาย
