เชียงราย-เครือข่ายชาติพันธ์รณรงค์สิทธิที่ดินเพื่อความมั่นคงทางอาหาร รัฐบาลออกเอกสารสิทธิที่ดินทำกินชนเผ่าในเขตพื้นที่ป่า
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ต.ค.2561 ที่หอประชุม โรงเรียนบ้านปางสา ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย นางวันดี ราชชมภู นอ.แม่จัน เปิดโครงการรณรงค์ส่งเสริมสิทธิที่ดินเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารชุมชนชาติพันธ์ เพื่อรณรงค์ให้ชาวชนเผ่าต่างๆในพื้นที่ ต.ป่าตึง อ.แม่จัน เข้าใจและตระหนักถึงสิทธิในการใช้พื้นที่ป่าชุมชนและพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกประกาศโดยราชการ ให้เป็นแหล่งทำมาหากินของประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธ์ เกิดความมั่นคงในการผลิตอาหารที่ได้จากธรรมชาติและมีความปลอดภัยในการบริโภค ทั้งในระดับพื้นที่ ระดับประเทศ และระดับนานาชาติ และเรียกร้องให้รัฐบาลผลักดันกฎหมายรับรองสิทธิชุมชนและสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองให้สามารถมีสิทธิใช้ที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติได้ตามกฎหมายอย่างเป็นธรรม มีนายสุพจน์ หลี่จา นายกสมาคมส่งเสริมสุขภาวะชุมชนชาติพันธ์ (สสช.) กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมโครงการ
นายศักดิ์ดา แสนหมี่ ผู้ประสานงานเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่ง ประเทศไทย (คชท.) กล่าวรายงาน นางเตือนใจ ดีเทศ อดีตสว.จังหวัดเชียงราย ร่วมงานเปิดโครงการฯ มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 200 คน หลังการเปิดโครงการฯประชาชนชาวชนเผ่าต่างๆได้ประกาศปฎิญญาในการรักษาที่ดินทำกินเพื่อการพัฒนาความมั่นคงทางอาหารร่วมกัน และมอบแผนที่สิทธิประโยชน์การใช้ประโยชน์ที่ดินทำกินให้แก่ชาวชนเผ่าในพื้นที่ ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียง
ก่อนหน้าการเปิดโครงการ ในวันที่ 19 ต.ค.2561 ผู้ร่วมโครงการฯจากกลุ่มเครือข่ายชาติพันธ์ องค์กรสาธารณประโยชน์ มูลนิธิเพื่อการพัฒนาในกลุ่มต่างๆ ได้ลงพื้นที่ศึกษางานวิถีชาติพันธ์กับความมั่นคงทางอาหาร ในพื้นที่ บ้านแคววัวดำ บ้านห้วยลุหลวง และบ้านปางสา ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย 
นายสุพจน์ กล่าวว่า การเปิดโครงการฯเกิดจากแนวคิดร่วมกันขององค์กรเครือข่ายพัฒนาชาติพันธ์ กับองค์กรพัฒนาภาคเอกชนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในเอเชีย เนื่องในโอกาสวันอาหารโลก 16 ตุลาคมของทุกปี เพื่อรณรงค์ความปลอดภัยทางอาหาร และให้กลุ่มชาติพันธ์เข้าใจและให้ความสำคัญกับสิทธิการใช้ที่ดินทำกินโดยให้มีความสอดคล้องกัน ดังคำกล่าวว่า “กินจากป่าต้องดูแลป่า ดื่มจากน้ำต้องรักษาแหล่งน้ำ” จึงจะทำให้เกิดความมั่นคงทางอาหารได้อย่างยั่งยืน
ด้านนางวันดี กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลได้อนุญาตให้ออกเอกสารสิทธิ์แก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ป่ามาแต่ดั้งเดิมเป็นเวลานานมาแล้ว สามารถใช้ที่ดินทำกินได้อย่างถูกกฎหมาย และสามารถนำที่ดินดังกล่าวไปแปลงสินทรัพย์เป็นทุนได้ โดยการนำไปจำนองกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ โดยอยู่ภายใต้กรอบระเบียบของกรมป่าไม้และธนาคารที่กำกับไว้ และต้องตรวจสอบการอยู่อาศัยเดิมและสถานะความยากจนให้ถูกต้องเสียก่อน ซึ่งทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่เป็นกลุ่มชนเผ่าสามารถมีที่ดินทำกินได้อย่างถูกต้อง ซึ่งในอ.แม่จันมีจำนวนพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ในพื้นที่ต.ป่าตึง และต.แม่จันบางส่วน
นางเตือนใจ กล่าวว่า ความมั่นคงทางอาหารหมายถึง การที่มนุษย์ทุกคนจะมีอาหารกินอย่างพอเพียง เป็นอาหารที่ปลอดภัยและมีความหลากหลาย มนุษย์จะมีความมั่นคงทางอาหารได้ต้องมีความมั่นคงในที่ดินทำกินด้วย ซึ่งปฏิญญาสากลสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชนที่มีอายุครบ 70 ปีในปี 2561 ระบุว่า มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาต้องมีสัญชาติ รัฐเจ้าของดินแดนต้องพิจารณาให้สัญชาติประชากรที่เกิดในดินแดนอาณาเขตพื้นที่ของรัฐ และต้องมีความมั่นคงในที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน
ข่าวโดย : หัสดินทร์ธร สองสมุทร
