เชียงราย-กำนันผู้ใหญ่บ้าน 2 อำเภอในเชียงรายคาใจ! งบประมาณบรรเทาปัญหาภัยแล้งน้ำท่วม จัดสรรได้ไม่ทั่วถึง งบไปกระจุกตัวแค่เพียงบางอำเภอ ในขณะที่บางอำเภอไม่ได้สักโครงการ วอนผู้มีอำนาจช่วยชี้แจง
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีหนังสือคำสั่งอนุมัติงบประมาณบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งผ่านมติจาก ครม. เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 63 โดยตั้งเป็นงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น กระทรวงมหาดไทยได้รับความเห็นชอบ 2 โครงการ งบประมาณรวมทั้งสิ้น 10,093 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 18,927 รายการ วงเงินงบประมาณ 9,957 ล้านบาท และโครงการจัดหาครุภัณฑ์เรือกำจัดผักตบชวาและวัชพืชจำนวน 805 ลำ วงเงินงบประมาณ 135 ล้านบาท โดยจังหวัดเชียงรายได้รับงบประมาณ 876 โครงการ งบประมาณ 437 ล้านบาท และได้มีหนังสือคำสั่งจากนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย ลงวันที่ 21 ส.ค. 63 ให้แต่ละอำเภอเร่งดำเนินการตามโครงการที่ผ่านการอนุมุติ
แต่ในหลายพื้นที่ต่างแสดงความไม่พอใจกับงบประมาณครั้งนี้ เพราะงบประมาณส่วนใหญ่ไปอยู่ที่ อ.พาน ซึ่งได้รับการอนุมัติโครงการทั้งสิ้น 381 โครงการ งบประมาณ 196 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณเกือบจะครึ่งหนึ่งของงบที่จังหวัดได้รับการจัดสรรมา ในขณะที่ อ.เวียงชัย ไม่ได้รับพิจารณาโครงการแม้แต่โครงการเดียว อ.เทิง ได้รับงบประมาณ 3 โครงการ งบประมาณ 1.2 ล้านบาท อ.ป่าแดด ได้ 5 โครงการ 1.6 ล้านบาท และ อ.พญาเม็งราย ได้ 5 โครงการ งบประมาณ 2 ล้านบาท ทำให้บรรดาผู้นำในอำเภอดังกล่าวได้ออกมาเคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวกันอย่างแพร่หลาย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ ที่อำเภอเทิง ได้มีตัวแทนกำนันผู้ใหญ่บ้านจำนวนมารวมตัว 10 คนมารวมกัน ณ ที่ว่าการอำเภอเทิงเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องบประมาณภัยแล้งน้ำท่วมที่ได้รับการจัดสรรไม่เป็นธรรม โดยมีนายสุระพงษ์ ละฟู่ ปลัดอาวุโสอำเภอเทิง เป็นประธานในการพูดคุย
นายสมยศ จันทร์ภูงา กำนัน ต.เวียง อ.เทิง เผยว่า ในวันนี้เป็นการรวมตัวของกำนันและตัวแทน อปท.ในพื้นที่ เพื่อมาสอบถามกับทางอำเภอว่าได้ส่งโครงการแก้ปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมไปตามขั้นตอนแล้วหรือยัง เพื่อความชัดเจนก่อนจะทำการร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ และได้คำตอบยืนยันจากทางเจ้าหน้าที่อำเภอว่าได้ดำเนินการส่งโครงการไปตามขั้นตอนแล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อไปทางตนจะเป็นตัวแทนกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับ ผวจ.เชียงราย และร้องเรียนไปยังสำนักเลขานายกรัฐมนตรีต่อไป
นายณัฐวุฒิ ไชยราช กำนันตำบลศรีดอนไชย อ.เทิง เผยว่า ในการออกมาให้ความเห็นในครั้งนี้ไม่ได้มาประท้วง เพียงแต่ข้องใจว่าอำเภอเทิงซึ่งเป็นอำเภอขนาดใหญ่ ส่งโครงการไปให้พิจารณาทั้งหมด 80 กว่าโครงการ เป็นงบประมาณราว 40 ล้านบาท แต่ได้รับการอนุมัติเพียง 3 โครงการ ทั้งๆที่จังหวัดเชียงรายได้งบกว่า 400 ล้านบาท ทางชมรมผู้ใหญ่บ้านอำเภอเทิงจึงมีความสงสัยว่าทำไม อ.พาน ถึงได้รับงบประมาณเยอะ ทำไมของเทิงได้แค่ 3 โครงการ เพราะทุกพื้นที่ของอ.เทิงก็เจอปัญหาทั้งภัยแล้งและน้ำท่วมมาตลอด
นายสมนึก วิงวอน กำนันตำบลหนองแรด และประธานสภาเกษตรกรอำเภอเทิง เผยว่า ปีการเพาะปลูก 62/63 อำเภอเทิงเจอปัญหาทั้งภัยแล้ง น้ำท่วม และเจอกับการระบาดของไวรัสโควิด ได้รับผลกระทบในการประกอบอาชีพเป็นอย่างมาก มีความหวังว่าจะมีงบประมาณแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมมาบรรเทาความเดือดร้อนบ้าง เพื่อนำมาใช้สร้างแหล่งกักเก็บน้ำใช้ในการเกษตร ซ่อมแซมฝาย ฯลฯ ในฐานะตัวแทนเกษตรกรก็มีข้อสงสัยว่าทำไมอำเภอเทิงได้รับการจัดสรรงบประมาณมาน้อยมาก ในขณะที่อำเภอขนาดเล็กๆ อย่าง อ.ดอยหลวง ยังได้งบถึง 14-15 ล้านบาท อยากฝากผู้มีอำนาจในการพิจารณาโครงการ ช่วยเหลือเกษตรกรชาวอำเภอเทิงด้วย เพราะเดือดร้อนจริงๆ
นายประเวช ยามี กำนัน ต.ป่าแดด และนายสรสิทธิ์ อุ่นนันท์ ผญบ.ม.4 ต.ป่าแดด อ.ป่าแดด กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในส่วนของตำบลป่าแดดได้ส่งโครงการเพื่อใปพิจารณาจำนวน 40 กว่าโครงการ แต่ในระดับจังหวัดโดนตัดเหลือ 30 กว่าโครงการ แต่เมื่อผลการพิจารณาโครงการจากส่วนกลางออกมา ปรากฏว่าตำบลป่าแดดไม่ได้สักโครงการ ทั้งๆที่ชาวตำบลป่าแดดก็เป็นคนไทยคนหนึ่งที่เสียภาษีให้กับรัฐ และได้ผ่านการทำประชาคมสำรวจความต้องการของชาวบ้าน เพื่อจะได้งบประมาณดังกล่าวมาแก้ปัญหาเรื่องการเกษตรให้กับชาวบ้าน เพราะประชากรตำบลป่าแดด 90% ประกอบอาชีพเกษตรกร แต่ละปีก็ประสบปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมมาตลอด โดยเฉพาะปัญหาแหล่งน้ำใช้ในการเกษตรช่วงฤดูแล้ง การปรับปรุงถนนเข้าพื้นที่ทางการเกษตร แต่เมื่อยื่นโครงการไปแล้วกลับไม่ผ่านสักโครงการ ก็เลยอยากจะถามผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการพิจารณาโครงการว่ามีเกณฑ์การตัดสินอย่างไรในการอนุมัติโครงการ
“อยากให้ผู้พิจารณาโครงการช่วยจัดสรรให้เท่าเทียมกันหน่อย เพราะต่างก็เป็นประชาชนที่จ่ายภาษีเหมือนกัน อำเภอที่มีปัญหาเยอะก็รับงบไปเยอะ อำเภอที่มีปัญหาน้อยก็ได้น้อย บางอำเภอได้เยอะเกินไป ไม่รู้ว่ามีอะไรแอบแฝงกันหรือเปล่า ควรจัดสรรให้ทั่วถึงตามความเป็นจริง” กำนันตำบลป่าแดดกล่าว
