เชียงราย-เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล ปรับทุกข์ถึงปัญหาเหม็นกลิ่นน่าจะจากบ่อขยะ ใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย กลิ่นแรงมากบริเวณ ต.เวียงพางคำ ซึ่งเป็นชุมชนใหญ่ 10 อปท.ทำ MOU เอามาให้เอกชนกำจัดในพื้นที่ เผยกำลังปรับขึ้นราคาเก็บค่ากำจัดขึ้น 720 บาทต่อตัน เริ่ม 1 ต.ค.นี้ ทำให้บาง อบต.รณรงค์ให้ชาวบ้านแยกกำจัดขยะเอง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 4 ก.ย.63 ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ปรับทุกข์ถึงปัญหาเหม็นกลิ่นจากบ่อขยะ ใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในโลกโซเชียล ว่า ช่วงนี้ ชาวบ้านบริเวณบ้านป่าเหมือด ต.เวียงพางคำ ซึ่งเป็นชุมชนใหญ่มีบ้านเรือนประชาชนอยู่จำนวนมาก มี ห้างสรรพสินค้าใหญ่ถึง 2 แห่ง มีสถานีขนส่งแม่สาย โรงแรม รีสอร์ท ประสบปัญหากลิ่นเหม็นฉุน น่าจะมาจากบ่อขยะที่ตั้งอยู่บริเวณตำบลเวียงพางคำ ทำให้หลายคนมาโพสต์บ่นว่าหายใจลำบาก เช่น “เหม็นจริงขนาดนี่มอเตอร์ไซต์ ผ่านป่าเหมือดไปแถวจันกะผักมีกลิ่นโชยมา แถวสี่แยกขนส่งยิ่งแรง” ‘’เอ็นดูแต้น้อ ..แถบนั้นทั้งแถบมลพิษทางเดินหายใจเสียสุขภาพจิต เหม็นมาตั้งแต่กลายเป็นจุดรองรับขยะ เหม็นมากว่า 20 ปี แล้ว” “ป่าเหมือด ซ.2 เหม็นมา 2 วัน ละค่ะ” “น่าจะเพราะมีน้ำฝนขังด้วยหรือเปล่าครับ” 
จากการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าว บริเวณ ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย ตรวจสอบก็ทราบว่ากลิ่นโชยเหม็นนี้เหม็นมาราว 5-7 วันแล้ว ในระยะนี้ ยิ่งช่วงค่ำกลิ่นจะแรงมาก สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนต้องหลบไปอยู่ในบ้าน บางคนแก้ปัญหาด้วยเปิดเครื่องปรับอากาศดับกลิ่น แต่สำหรับบางคนที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ก็ต้องทนกลิ่นเหม็นจนปวดหัว
นายแดนชัย บุลมาก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ทราบว่า บ่อขยะแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ ตำบลเวียงพางคำ มานาน 20 ปี แล้ว โดยเริ่มมาจาก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 10 แห่ง ใน อ.แม่สาย เช่น แม่สาย เวียงพางคำ ศรีเมืองชุม บ้านด้าย โป่งผา โป่งงาม ห้วยไคร้ แม่สายมิตรภาพ เกาะช้าง รวมกันไปของบประมาณจากรัฐบาลมาได้ 180 ล้านบาท จึงมาจัดซื้อที่ดินในตำบลเวียงพางคำ สร้างเป็นบ่อขยะแบบฝังกลบ มีบริษัทเอกชนรับดำเนินการเป็นช่วงๆ โดยที่ผ่านมารับกำจัดขยะจาก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ตันละ 400 บาท และล่าสุดในสิ้นเดือน ก.ย.63 นี้ จะมีการขึ้นราคาค่ากำจัดขยะเกือบเท่าตัวเป็น ตันละ 789 บาท แค่มีการต่อรองกันว่าแพงไป จึงลดเหลือ ตันละ 720 บาท แต่ยังถือว่าเป็นการเก็บราคาแบบก้าวกระโดด อาจส่งผลต่อประชาชน
ซึ่งในส่วนของ อบต.โป่งงาม ซึ่งมีประชากรรวม ทั้งในทะเบียนราษฎร์ 4,000 หลัง รวมแฝงแล้ว ราว 2 หมื่นคน จะมีขยะเกิดราว 2 ตัน ต่อวัน ถือว่าน้อยสุด เพราะบางชุมชนมีกว่า 26 ตันต่อวัน ตนได้มีแนวทางแก้ปัญหาคือจะมีการคัดแยกขยะในครัวเรือน ซึ่งมีการเตรียมการมาสักพักใหญ่ ขยะหลายชนิดนำไปรีไซเคิลได้ มีเมนูแยกขยะ 33 เมนู คือขยะที่มีประโยชน์กับไม่มีประโยชน์ เช่น ขวด กระป๋องเบียร์ น้ำอัดลม ขายให้บริษัทรับซื้อของเก่า แต่ขยะที่ไม่มีปะโยชน์ก็ทำปุ๋ยหมัก และทำเตาเผาไร้มลพิษขยะราคาราว 450,000 บาท เช่นที่ทำที่ดอยผาฮี้ ใช้สองหมู่บ้าน เพราะขยะที่ย่อยสลายยาก เช่น ถุงพลาสติก โฟม ก็พยายามลดการใช้ หรือโฟมมาฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วผสมขี้เถ้า ปูนซีเมนต์ ทราย ทำเป็นอิฐบล็อค เป็นต้น และมีการให้รางวัลเป็นข้อบัญญัติของตำบล บ้านไหนมีขยะน้อยไม่เกินครอบครัวละ 1 ก.ก.ต่อวัน อบต.โป่งงาม ก็จะเก็บค่ากำจัดขยะแค่ 1 บาท จาก 20 บาทเป็นต้น ยอมรับว่า บ่อขยะมักจะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งถึงแม้ อบต.โป่งงาม จะยังทำข้อตกลง MOU ทิ้งขยะกันที่ บ่อขยะเวียงพางคำ แต่ก็จะนำมาทิ้งน้อยที่สุด
การฝังกลบขยะไม่ใช่วิธีกำจัดที่ดีที่สุด เพราะพื้นที่ก็เสียหาย ขยะบางชนิดย่อยสลายใช้เวลาเป็นร้อยปี ทางที่ดีที่สุด คือไม่ควรให้มีขยะ หรือมีน้อยสุด ส่วนผลกระทบจากกลิ่นที่เหม็น ก็อยู่ที่จะมีการจัดการอย่างไรของผู้ประกอบการ ความคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานต่อไป
