เชียงราย-นายอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย นัดประชุมหารือ จนท.ไทย และเชิญ ฝ่าย นอภ.ท่าขี้เหล็ก มาร่วมหารือแนวทางป้องกันสกัดไวรัสโควิด-19 เผย สินค้าไทยไปเมียนมา ต้องมาถ่ายเทให้รถเมียนมา ทำต้นทุนสินค้าเพิ่ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอาจขึ้นซองละบาท ทำฝ่ายเมียนมากังวล หากเคลียร์กันไม่ได้ เมียนมาอาจถึงปิดด่านสะพาน 2
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 14 ก.ย.63 นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย เชิญ นายซาน เมี่ยซอ นายอำเภอท่าขี้เหล็ก พม่า และหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการข้ามแดน ไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย-จ.ท่าขี้เหล็ก ฝ่ายปกครอง ทหาร ศุลกากร ตม. สาธารณสุข หอการค้าแม่สาย ประชุมหารือกัน ณ ห้องประชุมอำเภอแม่สาย โดยสืบเนื่องจากการเฝ้าระวังสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดในเมียนมา ระลอก 2 ที่รัฐยะไข่ ทำให้ฝ่ายไทย เข้มงวดที่ด่านพรมแดน อ.แม่สาย -ท่าขี้เหล็ก สะพาน ที่ 2 โดยการขนส่งสินค้าจากฝั่งไทยมีการใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่นำสินค้า เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง จากฝั่งแม่สาย ข้ามสะพานไปยังจ.ท่าขี้เหล็ก ได้ คนขับรถบรรทุก สามารถอยู่ในเมืองท่าขี้เหล็ก ไม่เกิน 7 ชั่วโมง และห้ามค้างแรม และยังปฎิบัติได้เคร่งครัดดี
แต่มีปัญหาที่น่าห่วงใยคือ มีการใช้รถตู้สี่ล้อตู้ทึบบรรทุกสินค้ามากกว่า 200 คันจากฝั่งประเทศเมียนมา ข้ามมาขนสินค้าจากฝั่งไทย ตามโกดังต่างๆ ในเขต ชุมชน อ.แม่สาย ก่อนจะขนสินค้ากลับฝั่งประเทศเมียนมา ทำให้คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ได้มีประกาศฉบับที่ 35 กำหนดให้มาตรการใหม่ เปิดลานเปลี่ยนถ่ายสินค้าบริเวณในด่านศุลกากรแห่งที่ 2 โดยจะไม่อนุญาตให้รถยนต์ตู้จากเมียนมา เข้าพื้นที่ชั้นใน อ.แม่สาย และจะมีการตั้งชุดปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบการขนถ่ายสินค้าดังกล่าวด้วย
นายซาน เมี่ยซอ นายอำเภอท่าขี้เหล็ก กล่าวว่า ขณะนี้ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ไม่ได้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีการตรวจสอบยานพาหนะ เข้มงวดและถนนเชื่อม จ.ท่าขี้เหล็ก ไป จ.เชียงตุง มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเข้ม และกำชับทุกคนสวมหน้ากากอนามัย
การไม่ให้รถตู้เมียนมาข้ามไปขนสินค้าตามโกดังในแม่สาย และให้ขนถ่ายสินค้ากันบริเวณด่านพรมแดนศุลกากร นั้นเป็นการเพิ่มภาระผู้ประกอบการ ซึ่งอาจกระทบต่อการส่งออกของไทยและทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นด้วย กรณีนี้ เคยมีการแจ้งข้อมูลให้ทางอำเภอแม่สาย ว่ายกตัวอย่าง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาจขึ้นราคาอีกซองละ 1 บาท เป็นต้น และส่วนมาก สินค้าส่งออกด้านนี้ เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารแห้ง ผงชูรส ราคาอาจจะขยับขึ้นหมด เพราะ น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา ปธ.หอการค้า อ.แม่สาย ระบุว่าต้องใช้แรงงานคน ในการขนถ่ายสินค้าอีกอย่างน้อย 300 คนต่อวัน
ซึ่ง นายอำเภอแม่สาย ยังคงยืนยัน ที่จะให้ใช้มาตรการดังกล่าว เพราะเป็นการสกัดป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่ดีที่สุด ฝ่ายเมียนมา จึงแจ้งว่าหากจะคุมเข้มแบบนั้นทางฝ่ายเมียนมา ก็จะดำเนินการในลักษณะเดียวกันด้วยการห้ามไม่ให้รถบรรทุกสินค้าไทยเข้าไปในตัวเมืองท่าขี้เหล็ก และให้ใช้ชาวเมียนมา มาลำเลียงสินค้าบริเวณหน้าด่านเช่นกัน และ นายอำเภอท่าขี้เหล็ก ได้หยิบยกข้อตกลงหากการหารือระหว่างประเทศตกลงกันไม่ได้ ทางการเมียนมาส่วนกลาง ก็อนุญาตให้ส่วนท้องถิ่นเมียนมา สามารถปิดด่านพรมแดนได้เลย ซึ่งกรณีนี้หากไม่สามารถใช้มาตรการเดียวกันก็จะแจ้งให้มีการปิดด่านถาวรสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ฝั่งเมียนมา ทำให้ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงจะนำข้อหารือแจ้งต่อผู้ว่าราชการ ทั้งสองฝ่ายหาข้อตกลงกันอีกครั้ง
ทั้งนี้โดยมากสะพานแม่สาย แห่งที่ 2 เป็นเส้นทางส่งออกสินค้าจากไทยไปยังเมียนมาที่สำคัญ ถึงแม้เมียนมา จะมีเส้นทางลำเลียงสินค้าจากรัฐอื่นแต่ว่าสินค้าไทย ได้รับความนิยมจาก ชาวจังหวัดท่าขี้เหล็ก และรัฐฉาน มาช้านาน มูลค่าการส่งออกสูงที่ ด่าน อ.แม่สาย สูงราว 1 หมื่นล้านบาท ต่อปี ซึ่งหลังจากปิดสะพานแม่สายแห่งที่ 1 เพื่อสกัดไวรัสโควิด-19 เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2563 ด่านสะพานแม่สาย แห่งที่ 2 ก็ยังเปิดให้มีการขนสินค้ากันอยู่ปกติ ยกเว้นบุคคล และอีกประเด็นหนึ่งซึ่งมีความห่วงใยต่อคือ หากมีการปิดด่านสะพาน 2 อาจทำให้เกิดความอดอยากในแนวชายแดนและส่งผลต่อผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองช่องทางธรรมชาติ อาจสูงขึ้นอีก
