เชียงราย-รวบหนุ่มไทยลักลอบขนเงินกว่า 5 ล้านบาท ลงเรือข้ามโขง พบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 150 ล้าน
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 1 ธันวาคม 63 พ.ต.อ.ศตศักดิ์ พิมลทิพย์ ผกก.สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย ทราบว่ามีการลักลอบนำเงินจำนวนมากออกนอกประเทศ ข้ามแม่น้ำโขงไปยังฝั่งประเทศลาว โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร และมีการทำกันเป็นขบวนการ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท. มนตรี ภูมสะอาด รองผกก.ป. พ.ต.ท.อนุพันธ์ กันถารัตน์ รองผกก.สส. พ.ต.ท.กิตติภูมิ กันจินะ สว.สส ร.ต.อ.เมฆินทร์ กองแสง ร.ต.อ.วิศิษฐ์ หินทอง รองสว.สส. ร.ต.อ.ทองพูน ทองไหล ด.ต.ณัฐวัฒน์ จิตมโนวรรณ์ ด.ต.นิวัฒน์ เตมา ด.ต.ภูวดล บัวติ๊บ และส.ต.อ.สะอาด คำเงิน ออกสืบสวนจับกุม พร้อมประสานกับ นายวิโรจน์ โง้วเจริญสุข นายด่านศุลกากรเชียงแสน ได้ส่งเจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้าร่วมสืบสวนจับกุมต่อมา พ.ต.ท.กิตติภูมิ พร้อมชุดสืบสวนและชุดปราบปรามศุลกากรเชียงแสน ได้ติดตามชายต้องสงสัยขณะหิ้วกล่องพัสดุของไปรษณีย์ไทยเดินลงไปยังท่าเรือจุดผ่อนปรนหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน โดยมีเรือหางยาวของคนลาวจอดรออยู่ข้างโป๊ะเทียบเรือ เจ้าหน้าที่เห็นได้รีบเข้าล็อกตัวชายคนขับเรือ และชายเจ้าของกล่องพัสดุ พร้อมยึดกล่องพัสดุและเรือหางยาว จากการเปิดตรวจสอบกล่องพัสดุพบภายในเป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท เป็นเงิน 5,490,000 บาทและธนบัตรใบละ 500 บาท อีก 4,500บาท รวม 5,494,500 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวชายทั้งสองมาสอบสวนที่ สภ.เชียงแสน ทราบชื่อเจ้าของเงินว่า นายสุกันทา ภูมิพันธ์ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 245 ม.2 ต.แม่นาเรือ อ.เมือง จ.พะเยา และคนขับเรือชาวลาวชื่อ นายสมจิตร อินตะสอน อายุ 52 ปีบ้านอยู่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ค้นในตัวนายสุกันทา พบสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงเทพ สาขาเชียงแสน ชื่อนายสุกันทา ภูมิพันธ์ 1 เล่ม มียอดบัญชีเงินหมุนเวียนกว่า หนึ่งร้อยล้านบาทนายสุกันทาให้การว่า ตนทำงานให้กับบริษัทแห่งหนึ่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำของจีน ในฝั่งสปป.ลาว ที่รับแลกเปลี่ยนเงิน ทุกวันจะมีเงินโอนเข้าสมุดบัญชีเงินฝากของตน แล้วตนจะมีหน้าที่ถอนเงินออกจากธนาคารกรุงเทพ สาขาเชียงแสน แล้วนำเงินบรรจุลงกล่องพัสดุไปรษณีย์ ส่งไปยังบริษัทที่ตนทำงานอยู่ ซึ่งทางบริษัทจะจ้างเรือจากประเทศลาวมารับกล่องเงินทุกวันที่ท่าน้ำโขงหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน โดย 1 เดือนจะมียอดถอนเงินออกไปประมาณ 150 ล้านบาท แต่เงินที่โอนเข้าบัญชีตนวันหนึ่งเป็นสิบๆ ครั้ง ตนก็ไม่ทราบว่าเป็นเงินมาจากที่ใด เพียงแต่ตนได้รับเงินเดือน สามหมื่นบาทต่อเดือน จากบริษัท จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวนายสุกันทาไปค้นที่ห้องพักของนายสุกันทาเช่าอยู่ในเขต ม.2 เทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน ภายในห้องพักพบกล่องพัสดุแบบเดียวกันอีก 7 กล่อง และสมุดฝากเงินของธนาคารอีก 1 เล่มจึงยึดไว้เพื่อตรวจสอบสำหรับนายสมจิตร เจ้าของเรือ จากการสอบสวนปรากฏว่าได้ให้การเป็นประโยชน์กับรูปคดี ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้กันนายสมจิตรไว้เป็นพยานด้านเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรเชียงแสนรายหนึ่งเปิดเผยว่า การส่งหรือนำเงินตราออกนอกประเทศ ไปยังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐประชาชนจีน(เฉพาะมณฑลยูนนาน) และประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศไทย ในจำนวนได้ไม่เกินสองล้านบาทเท่านั้น จากนั้นได้นำตัวนายสุกันทาให้พนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน สอบสวน เพื่อส่งตัวให้ทางด่านศุลกากรเชียงแสนดำเนินคดีตามกฎหมายศุลกากรต่อไป.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: