เชียงราย-กอ.รมน. เชียงราย จัดโครงการชุดชุมชนสัมพันธ์ (ขุนด่าน) สาธิตการทำปุ๋ยหมักจากเศษวัชพืช การสาธิตการใช้เครื่องบดใบไม้ผสมดินเพื่อทำปุ๋ย จากนั้นร่วมกันพัฒนาศูนย์วิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชา และทำแนวกันไฟพื้นที่รอบๆ วัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ จ.เชียงราย ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้นำไปเป็นประโยชน์และสานต่อภายในครอบครัว ชุมชุน ของตนเองได้อย่างเป็นรูปธรรม สามารถพึ่งพาตนเองได้ สร้างความสมัครสมานสามัคคีของคนในชุมชน
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 พ.อ. กิตติพล ไพรหิรัญ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย(กอ.รมน.) ฝ่ายทหาร เป็นประธานเปิดกิจกรรมโครงการชุดชุมชนสัมพันธ์ (ขุนด่าน) กิจกรรมที่ 3 สร้างความตระหนักรู้ฯ (บำเพ็ญสาธารณประโยชน์) ที่บริเวณวิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชา วัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ ตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เพื่อปลูกจิตสำนึกให้เกิดความรับผิดชอบต่อส่วนรวมในฐานะพลเมืองของประเทศ และทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสาธารณะ โดยมี หน่วยทหาร ประชาชนจิตอาสา ผู้นำท้องถิ่น ตลอดจนประชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 200 คน 
สำหรับกิจกรรมได้จัดให้มีการสาธิตการทำปุ๋ยหมักจากเศษวัชพืช การสาธิตการใช้เครื่องบดใบไม้ผสมดินเพื่อทำปุ๋ย โดย อบจ.เชียงราย จากนั้นร่วมกันพัฒนาศูนย์วิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชา และทำแนวกันไฟพื้นที่รอบๆ วัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ การทำเสวียนจากไม้ไผ่ การแปรรูปฟางข้าวกลบหน้าดินแปลงผักโดยไม่ต้องเผา และสาธิตอื่นๆ อีกมากมาย ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้นำไปเป็นประโยชน์และสานต่อภายในครอบครัว ชุมชุน ของตนเองได้อย่างเป็นรูปธรรม สามารถพึ่งพาตนเองได้ 
พ.อ. กิตติพล ไพรหิรัญ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย ฝ่ายทหาร กล่าวว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย (กอ.รมน.จว.ชร) มีภารกิจที่เกี่ยวข้องกับแผนย่อยการรักษาความสงบภายในประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง มุ่งสร้างภูมิคุ้มกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคง นอกจากนี้ยังทำให้เกิดเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการบริหารจัดการ และการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ให้บรรลุเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมและมีความยั่งยืน
ด้าน พันตรี สมเดช ช่างนาค รอง หน.กลุ่มงานกิจการมวลชน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย ยังได้กล่าวอีกว่า กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง ปราศจากการครอบงำ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมให้คนในชุมชนได้มีส่วนร่วม มีการพบปะพูดคุยกันบ่อยขึ้น สร้างความสมัครสมานสามัคคีของคนในชุมชน เพื่อเสริมสร้างให้เกิดสำนึกของการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของชาติ และยึดมั่นในความจงรักภักดี มีความรักความสามัคคี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในสังคมไทยให้สามารถเผชิญปัญหาต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติได้อย่างยั่งยืน และที่สำคัญเป็นการสร้างจิตสำนึก ในความรักชาติ รักสถาบันฯ ตลอดจนใช้เป็นเวทีในการสื่อสารชี้แจงสร้างความเข้าใจในเรื่องต่างๆ ทั้งการสร้างความปรองดอง และการดำเนินงานของรัฐบาล
