เชียงราย-ทหาร กกล.ผาเมือง รวบ 2 หนุ่มแม่สาย รับจ๊อบขับรถกระบะ รีโว่ ร็อคโค่ ป้ายแดง 2 คัน ตามออเดอร์ ออกไปตามช่องทางบนดอยผาหมี ห่างจากถนน 100 เมตร จะข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านเมียนมา อ้างรับค่าจ้างคันละ 10,000 บาท สืบสวนคาดเป็นรถที่ฝั่งเพื่อนบ้านสั่งซื้อแล้วขบวนการคนไทยไปเช่าซื้อมา แล้วจะนำไปขายต่อ จากนั้นอาจจะแจ้งหาย หรือไม่จ่ายหนี้ไฟแนนซ์ จึงกำลังขยายผลถึงขบวนการต่อไป
เมื่อวันที่ 23 ก.พ.64 พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง รับรายงานว่า ร.อ.พูนสิทธิ์ บุรพรัตน์ ผบ.ร้อย ม.2 บก.ควบคุมที่ 1 ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ตั้งจุดตรวจบริเวณบ้านผาหมี ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชายแดนไทย-เมียนมา ได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้ารีโว่ ร็อคโค่ 4 ประตู ขับเคลื่อนสี่ล้อ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง น-8681 กทม.และสีแดง ทะเบียนป้ายแดง ก.9621 ภูเก็ต ท่าทางมีพิรุธ 2 คัน ขับไปตามถนนเส้นทางท่องเที่ยวตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา
จึงได้ร่วมกับ บก.ควบคุม ปส. และ ฝ่ายปกครอง อ.แม่สาย ที่กำลังลาดตระเวนตามช่องทางต่างๆ ในเขตรับผิดชอบเข้าไปตรวจสอบ ต่อมาพบรถทั้ง 2 คันกำลังพยายามจะขับออกจากถนนสายหลัก บ้านผาหมี ไป บ้านผาฮี้ เข้าป่าข้างทางด้านขวา ห่างจากถนน 100 เมตร (พิกัด NC 875530)เป็นป่ารกช่องทางข้ามแดนธรรมชาติ ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน บ้านนาแก เมืองท่าขี้เหล็ก มีถนนเชื่อมจากถึงหมู่บ้าน และอีกไม่กี่ร้อยเมตร กำลังจะข้ามพรมแดนสำเร็จแล้ว
จากการตรวจสอบพบ นายธงชัย แก้วสม อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/1 ม.5 ตำบลเกาะช้าง อ.แม่สาย คนขับรถกระบะสีแดง กับ นายประภาส นันทะชัย อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 178 ม.9 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย คนขับรถกระบะสีขาว คนขับรถทั้ง 2 คัน ที่ให้การเบื้องต้นว่าได้รับการว่าจ้างจากกลุ่มคนไม่ทราบชื่อ ให้ไปรับรถที่ลานจอดปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ใกล้แยกห้วยน้ำริน อ.แม่สาย เพื่อขับรถออกไปส่งประเทศเพื่อนบ้าน แลกกับเงินคนละ 10,000 บาท ไม่พบเอกสารประจำรถ และสภาพเป็นรถใหม่เอี่ยม เจ้าหน้าที่ทหารจึงควบคุมตัวพร้อมของกลาง ส่ง พ.ต.ท.จักรพงษ์ ศรีวานิชย์กุล สารวัตรสอบสวน สภ.แม่สาย(เมื่อ 15.00 น.วันที่ 22 ก.พ.) สืบสวนขยายผลถึงขบวนการ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมา พ.ต.ท.คมกฤช ไชยสาร รอง ผกก.ป.,พ.ต.ท.อนุพันธ์ กันถารัตน์ รอง ผกก.สส.สภ.แม่สาย และ พ.ต.ท.พีรพจน์ ธุรกิจ สารวัตรสืบสวน สภ.แม่สาย ตรวจสอบรถทั้งสองคัน เบื้องต้นทราบว่า รถสองคันนี้มีการเช่าซื้อถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีการแจ้งหาย รถติดไฟแนนซ์อยู่ โดยมาจาก กทม. และ จ.ภูเก็ต และสอบสวนทราบว่า รถสองคันนี้ ขบวนการเช่าซื้อรถได้รับการติดต่อจากผู้ซื้อในฝั่งเพื่อนบ้านให้หารถกระบะที่นิยมรุ่นนี้ ตามใบสั่ง ขบวนการที่เป็นคนไทย และรับเงินมาบางส่วนได้นำเงินไปให้ทีมงาน ไปเช่าซื้อรถกระบะเป้าหมายใช้เงินดาวน์ หลักหมื่นถึงแสนกว่าบาท โดยผู้เช่าซื้อจะได้ค่าจ้างจำนวนหนึ่ง หากรถเหล่านี้ไปถึงประเทศเพื่อนบ้านน่าจะขายได้ราคาคันละประมาณ 6-8 แสนบาท เพราะเป็นรถที่ตลาดเพื่อนบ้านต้องการ เตรียมแจ้งข้อหา พยายามนำรถออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากร มีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ
ข่าวโดย : ธีรวัฒน์ คำธิตา ทีมข่าวเชียงราย
