เชียงราย- รอง ผบ.ตร.นำกำลัง ปปส.สนธิ กำลัง จนท.ทหาร ตร. ปิดล้อมตรวจค้นตามแผนสยบไพรี 64/5 ทลาย “โพยก๊วนบังลาย” ขยายผลจากคดีจับเฮโรอีน 400 ก.ก. นำกำลังค้นพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 27 จุด ยึดทรัพย์ ฟิตเนสชื่อดังแม่สาย โกดังส่งออกสินค้า เงินสด รถยนต์ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างกว่า 27 แห่ง ที่ บ้านป่าเหมือด ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และหลายจังหวัด พร้อมผู้ต้องหา 14 คน ส่วน “บังลาย” ตัวการ กบดานในประเทศเพื่อนบ้าน และ ขยายผลจับกุมผู้ค้ายาเสพติดเครือข่ายเฮโรอีนและไอซ์ข้ามชาติ ตรวจค้นพื้นที่ จ.เชียงราย-เชียงใหม่ จับผู้ต้องหาอีก 1 คน ยึดทรัพย์อีก 5 ล้านบาท
เมื่อเวลา 05.30 น.วันที่ 26 ก.พ.64 การปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นตามแผนสยบไพรี 64/5 “ปฏิบัติการสยบโพยก๊วนบังลาย” และ “ขยายผลจับกุมผู้ค้ายาเสพติดเครือข่ายเฮโรอีนและไอซ์ข้ามชาติ” ตามนโยบายรัฐบาล พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผช. ผบ.ตร.ลงพื้นที่ พร้อม นายวิชัย ไชยมคล เลขาธิการ ป.ป.ส.พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส., พล.ท.บุญยืน อินกว่าง แม่ทัพน้อยที่ 3 ส่งกำลังผสม ชุดสยบไพรี ปปส,ทหารกองกำลังผาเมือง,ตชดที่ 32 ตำรวจภูธร จ.เชียงราย และ สภ.แม่สาย ฝ่ายปกครอง รวมพลที่ลานยุววรรณ อ.แม่สาย ก่อนกระจายกำลังค้นเป้าหมายในพื้นที่ อ.แม่สาย อ.เมือง จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ กว่า 27 จุด พร้อมกัน
โดยที่ อ.แม่สาย พื้นที่การค้น 20 เป้าหมาย 27 จุด เกิดจากการขยายผลของ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ร่วมกันทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 6 คน พร้อมด้วย เฮโรอีน จำนวน 1,000 แท่ง น้ำหนักประมาณ 400 กิโลกรัม นายอนุวัฒน์ เถื่อนประดิษฐ์ หนึ่งในผู้ต้องหารับว่ายาเสพติดดังกล่าวเป็นของ นายธวัชชัย อ้อมชมภู ซึ่งหลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สาย มีฉายาในวงการยาเสพติดว่า “บังลาย” ว่าจ้างให้ทำการลำเลียงยาเสพติด และเมื่อลูกค้าที่ซื้อยาเสพติด นายธวัชชัยฯ หรือ บังลาย จะโอนเงินเข้า บัญชีธนาคารกสิกรไทย ของ นายอนุวัฒน์ฯ ผู้ต้องหา แล้ว นายอนุวัฒน์ฯ ผู้ต้องหาจะถอนเงินไปฝากเข้าบัญชีคำสั่งของ บังลาย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสอบสวนขยายผลส้นทางการเงินทราบว่า จะใช้วิธีการให้บุคคลในเครือข่ายทำการเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อรับโอนเงินค่ายาเสติด โอนเงินเข้าบัญชีต่อกันเป็นทอดๆ จนถึงบัญชีของบุคคลที่ทำหน้าที่ในการถอนเงินสดออกรวบรวมเงิน แล้วลักลอบนำเงินสดขนข้ามชายแดนกลับไปสู่กลุ่มผู้ผลิตที่อยู่ในประเทศเมียนมา ซึ่งกลุ่มบัญชีที่ใช้ถอนเงินสดจะดำเนินการโดยกลุ่มบุคคลที่ทำธุรกิจส่ออกสินค้าบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา โดยบุคคลเหล่านี้จะนำเงินสดชุกซ่อน อำพรางไปกับสินค้าขนข้ามชายแดน ไปให้กับเครือข่ายของ นายธวัชชัยฯ หรือ บังลาย ที่อยู่ในประเทศเมียนมา
จึงจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 14 ราย คือ (1.)น.ส.สิรินาฏ ขันเมือง ที่อยู่ 64 ม.5 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 152/2564 (2.) นายจิรภาส ลาภวัตสกุล ที่อยู่ 67 ม.5 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงรายผู้ต้องหาตาม หมายจับศาลอาญา ที่ 153/2564 (3.) น.ส.ลักษณพร ลาภวัตสกุล ที่อยู่ 100 ม.9 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ผู้ต้องหาตาม 151/2564 (4.)นายมาโนช พุฒพันธ์ ที่อยู่ 190/1 ม.9 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย (5.)นวรัตน์ ตั้งวรรณเศรษฐี ที่อยู่ 62 ม.7 ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย (6.)น.ส.สุข กองมู (7.)น.ส.รุจิรา จับใจนาย (8.)นางวงค์จันทร์ ท้าวสมวงศ์ (9.)นายเอกราช สีสังข์ (10.) น.ส.กนกวรรณ โพธาราม (11.)นายณัฐกรณ์ เหลืองดอกไม้ (12.)นายวีระศักดิ์ จรูญศักดิ์ (13.) นายเกรียงศักดิ์ พูลศิลป์ (14)นายสุนิชัย แสนจ๊า อายุ 31 ปี ที่อยู่ 99 หมู่ 3 ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 161/2564
ตรวจยึดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบ 1.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ทั้ง จ.เชียงราย และหลายจังหวัดในประเทศไทย รวม 27 แห่ง มูลค่า 75 ล้านบาท (2.)รถยนต์ 10 ล้อ จำนวน 1 คัน มูลค่า 1.5 ล้านบาท ,3.รถยนต์ 6 คัน มูลค่า 5 ล้านบาท,4.ทองรูปพรรณ น้ำหนัก 5 บาท มูลค่า 150,000 บาท5.เครื่องออกกำลังกาย 50 ชุด ในฟิตเนสวายที บ้านป่าเหมือด ต.เวียงพางคำ มูลค่า 2 ล้านบาท 6.กระเป๋าแบรนด์เนม 4 ใบ มูลค่า 2 แสนบาท7.เงินสด 1,420,000 บาท ,8.นาฬิกาข้อมือ 2 เรือน มูลค่า 35,000 บาท, 9.เงินสดในบัญชีธนาคาร ประมาณ 400,000 บาท ,10.สินค้าส่งออก มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ,11.เครื่องจักรโรงงานส่งออก ที่ โกดังที่ ซอย 4 บ้านป่าเหมือด ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท รวมมูลค่าประมาณ 100,305,000 บาท โดย รอง ผบ.ตร.มีการไปสอบสวน กลุ่มนี้มี นายจิรภาส ลาภวัตสกุล และ น.ส.สิรินาฏ ขันเมือง ภรรยา ดำเนินการเป็นเจ้าของฟิตเนสชื่อดังใน อ.แม่สาย และทำชิปปิ้งส่งออกมีโกดัง (พิชชาภาอิมปอร์ตเอ๊กปอร์ต) ที่บ้านป่าเหมือดซอย 4 ตำบลเวียงพางคำ อ.แม่สาย เบื้องต้น นายจิรภาส ให้การแค่ว่าได้ลงทุนเซ้งกิจการฟิตเนสต่อมาจากคนอื่นในราคา 1 ล้านบาท และได้มอบเงินสด 1.4 ล้านบาท ให้ภรรยาไปก่อนหน้านี้ ก่อนจะถูกบุกตรวจค้นจับกุม ส่วน นายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือ บังลาย” ตัวการที่ทราบว่ายังกบดานในประเทศเพื่อนบ้าน ตรงข้าม อ.แม่สาย จะหาแนวทางในการติดตามจับกุมต่อไป
อีกคดี ที่ วันเดียวกัน “ขยายผลจับกุมผู้ค้ายาเสพติดเครือข่ายเฮโรอีนและไอซ์ข้ามชาติ” ได้ทำการจับกุม นายทนง อ่ำแดง ผู้ต้องหาพร้อมพวกรวม 4 คน พร้อม ด้วยของกลาง ไอซ์ 500 ถุง น้ำหนักประมาณ 500 ก.ก.และเฮโรอิน 1,034 แท่ง น้ำหนักประมาณ 412 กิโลกรัม ในพื้นที่ อ.ปลวกแดง จ. ระยอง หลังการจับกุมทำการยึดอายัดทรัพย์สิน จับกุม เป็นที่ดิน,อาคารพาณิชย์,รถยนต์จักรยานยนต์ และอาวุธปืน รวมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท พฤติการณ์ของกลุ่มครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จะลำเลียงยาเสพติดไปยังพื้นที่ภาคกลาง,ภาคตะวันออก ประเทศที่สาม โดยจะนำยาเสพติดมากช่อนในพื้นที่ใกล้เคียง กรุงเทพมหานคร เมื่อมีการตกลงจะมีการส่งมอบยาเสพติดโดยวิธีการชุกซ่อนในรถกระบะตู้ทึบนำไปจอดไว้ในที่นัดหมายขับรถที่บรรทุกยาเสพติดไป และในการดำเนินการเรื่องเงินค่ายาเสพติดจะใช้วิธีการให้โอนเงินเข้า ต่างประเทศ เพื่อเป็นการอำพราง มี นายทรงศักดิ์ วัชรปรีชากูล เป็นตัวแทนในการเจรจาชื้อขายยาเสพติด จึงได้ทำการออกหมายจับนายทรงศักดิ์ฯในข้อ ร่วมกันมียาเสพติด ประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้ทำการขยายผลจนทราบว่า นายทรงศักดิ์ฯ อาศัยอยู่ ต.ริมกก อ..เมือง จ.เชียงราย บก.ปส.1 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจับกุมตัวได้ โดยมีการติดตามเส้นทางการเงิน และใช้ระบบเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้กับการปราบปรามมากขึ้น โดยประสานกับกระทรวงยุติธรรมในการทำงาน
