เชียงราย-ป.ป.ช.เผยคดีกล่าวหา อดีตปลัด ทต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย คดีเรียกรับเงินเปอร์เซ็นต์จากร้านค้า หรือคู่สัญญาของเทศบาล ซึ่ง ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิด เมื่อปี 2558 ว่า มีความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 และมาตรา 157 โดยศาลชั้นต้น ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษา ว่าจําเลยผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษ จำคุกรวม 35 ปี เห็นชอบตามความเห็นของอัยการสูงสูด ที่จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ทำให้มีกระแสการตื่นตัวของประชาชน สนใจต่อเรื่องการต่อต้านการทุจริตในวงราชการขึ้นอย่างมาก จับตาอีกหลายการร้องเรียนและตรวจสอบในเชียงราย
เมื่อวันที่ 3 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย เผยแพร่ข้อมูลว่า เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายประดิษฐ์ หรือ เดชประดิษฐ์ นามลักษณ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ปลัดเทศบาลตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย คดีเรียกรับเงินเปอร์เซ็นต์จากร้านค้าหรือคู่สัญญาของเทศบาล ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด เมื่อวันที่ 22 ธ.ค2558 ว่า นายประดิษฐ์ หรือ เดชประดิษฐ์ มีความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 และมาตรา 157โดยศาลชั้นต้น ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 มี.ค.2561 ว่า จําเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 103 ประกอบ มาตรา 123/1 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษตามมาตรา 91 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามมาตรา 90 จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 7 กระทง จำคุก 35 ปี ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
และเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2561 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขณะที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2562 มีมติเห็นชอบตามความเห็นของอัยการสูงสูด ที่จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
ทั้งนี้มีรายงานว่า ขณะนี้ภาคประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงราย ให้ความสนใจต่อเรื่องการทุจริตในวงราชการขึ้นอย่างมาก มีการตรวจสอบติดตามการใช้จ่ายขององค์กรภาครัฐอย่างเข้มข้นผ่านโลกโซเชียล ไปพร้อมกับติดตามการทำงานตรวจสอบขององค์กรอิสระ ปปช.เพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริต และปรากฎข่าวสารการร้องเรียนและตรวจสอบ ให้ลงโทษผู้ที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบอย่างต่อเนื่อง และเคยมีการลงโทษอดีต ขรก.ทั้งประจำ และนักการเมืองที่ทุจริต ประพฤติมิชอบในหลายจังหวัด และที่ จ.เชียงราย ซึ่งขณะนี้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น ก็มีการเร่งเดินเครื่องตรวจสอบอย่างจริงจังอีกหลายโครงการ อาจจะนำไปสู่การดำเนินคดีอดีตผู้บริหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โทษถึงติดคุก และถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองคล้ายลักษณะนี้ด้วย (สร้างสังคมไม่ทนต่อการทุจริตพบเห็นการทุจริตฯ สะกิด STRONG)
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: