เชียงราย-ปปช.เชียงราย เอาจริงโรงแรมสร้างในที่ป่าบนดอยแม่สลองเรียกข้าราชการประชุมแจงการทำหน้าที่วันที่ 11 นี้
วันที่ 10 มี.ค.2564 หลังจากที่วีคลี่นิวส์และสื่อออนไลน์หลายสำนักต่างพากันเสนอข่าวเกี่ยวกับการสร้างโรงแรมขนาดใหญ่กว่า30แห่งบนดอยแม่สลอง จว.เชียงราย มาตั้งแต่ปี2562 ว่า ผู้ว่าราชการจว.และนายอำเภอ แม่ฟ้าหลวง หลายยุคหลายสมัยมีการออกใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรมบนที่ดินป่าสงวนแห่งชาติได้อย่างไร
อีกทั้งภายหลังเสนอข่าวได้มีกอรมน.ในพท.จัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมบนดอยแม่สลองด้วยการให้กำลังใจผู้ประกอบการเหล่านั้นว่า. ไม่ต้องตกใจ ปรากฎที่ผ่านมายังไม่มีการ”เอาผิดกับผู้ฝ่าฝืน”อีกทั้งข้าราชการในจว.เชียงรายต่างพากันสมรู้ร่วมคิดเพราะดอยแม่สลองเป็นแหล่งทำเงินและแหล่งท่องเที่ยว สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดได้เป็นอย่างดี ทำให้ข้าราชการในจว.ต่างพากันละเลย ละเว้น ในการปฎิบัติหน้าที่ปล่อยให้มีการปลูกสร้างอาคารขนาดใหญ่โดยไม่มีใบอนุญาตจนป่าเขาต้นไม้ลำธารโล้นเตียนโล่ง ไม่เคารพในกฎหมายของปท.
ผู้ว่าราชการคนหนึ่งฃึ่งเป็นผู้ออกใบอนุญาตโรงแรมพูดว่า. พวกเขามาขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม เราจะไม่ออกให้เขาได้อย่างไร มิงั้นเขาก็จะฟ้องหน่วยงานราชการได้ ขณะที่ผู้สื่อข่าวแย้งว่า ในการออกใบอนุญาตจะต้องตรวจขอใบอนุญาตก่อสร้าง โฉนดที่ดิน ประกอบการขออนุญาต เมื่อการก่อสร้างไม่มีใบอนุญาต ที่ดินไม่มีโฉนด จะอนุญาตออกไปได้อย่างไร ทำให้ผู้ว่าราชการรายนี้ฃึ่งปัจจุบันย้ายไปอยู่จว.ใกล้เคียงแล้ว ไม่ตอบคำถาม และกระทรวงมหาดไทยทราบเรื่องแล้วก็ยังไม่ดำเนินการอะไรกับข้าราชการของตัวเองที่ปล่อยปละละเลย
สำคัญคือปล่อยให้อดีตนายอำเภอแม่ฟ้าหลวง รายหนึ่ง กลั่นแกล้งผู้ประกอบการหญิงสูงวัยดำเนินคดีอาญาในข้อหาไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ขณะที่อีก30กว่ารายไม่ดำเนินคดี อ้างว่าไม่มีคนฟ้องร้อง และหญิงสูงวัยรายนี้ได้ร้องทุกข์ต่อกรมการปกครองแต่ไม่มีการให้ความเป็นธรรมกับเธอแต่อย่างใด เมื่อปปช.จังหวัดเชียงราย ได้ติดตามข้อมูลดังกล่าวแล้วพบว่าเป็นเรื่องจริง จึงได้จัดประชุมเชิงปฎิบัติกาติดตามมาตราการการป้องกันทุจริตด้านทรัพยากรสาธารณะในเขตพท.จว.เชียงราย โดยเฉพาะการรุกพท.ป่าไม้”ดอยแม่สลอง”เพื่อแลกเปลื่ยนความรู้กับข้าราชการในพท.ในวันที่11 มีค.นี้
ในการนี้จะมีการยื่นเรื่องฟ้องเอาผิดข้าราชการในจว.ที่เกี่ยวข้องกับปปช. ด้วย เพื่อจะดูว่าการจัดประชุมครั้งนี้จะไม่มีการเตะหมูเข้าปาก..มาให้ข้าราชการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องพากันละเลย ละเว้น ในการปฎิบัติหน้าที่ได้อีก
