เชียงราย-กองกำลังผาเมือง เตรียมความพร้อมรองรับผู้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในประเทศเมียนมา ภายหลังสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก มีความเคลื่อนไหวในกลุ่มข้าราชการ และ ประชาชนที่ต่างออกมารวมตัวกันต่อต้านกองทัพ ทำให้มีแนวโน้มลุกลามไปในเมืองต่างๆ จัดเตรียมพื้นที่แรกรับ และพื้นที่พักรอชั่วคราวของผู้อพยพ อย่างน้อย 6 จุด ใน อ.แม่สาย สามารถรองรับได้ 2,000 คน พร้อมมีมาตรการคัดกรองไวรัสโควิด-19 และในสัปดาห์จะมีการประเมิน จากผู้บังคับบัญชาระดับสูง
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 14 มี.ค.64 พลตรี นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า ขณะนี้กองกำลังผาเมือง ได้เตรียมความพร้อมรองรับผู้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในประเทศเมียนมา ภายหลังสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก มีความเคลื่อนไหวในกลุ่มข้าราชการ และ ประชาชนที่ต่างออกมาแสดงสัญลักษณ์ชูสามนิ้วประกาศหยุดงานทั่วประเทศ และรวมตัวกันต่อต้านกองทัพเมียนมาด้วยความไม่พอใจ ทำให้มีแนวโน้มลุกลามไปในเมืองต่างๆ
จากการประเมินสถานการณ์ในพื้นที่รับผิดชอบของ กองกำลังผาเมือง ด้านตรงข้ามจังหวัด เชียงใหม่ มีการชุมนุมประท้วงที่เมืองต่วน และเมืองสาด ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลจากแนวชายแดน จึงยังไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย ส่วนด้านตรงข้ามจังหวัดเชียงราย มีการชุมนุมประท้วงในพื้นที่ จังหวัดท่าขี้เหล็ก ซึ่งในห้วงที่ผ่านมาได้มีการจัดกิจกรรมชุมนุม บริเวณหน้าจุดผ่านแดน ถาวรสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 ส่งผลให้ต้องมีการปิดด่านฯ จำนวน 2 ครั้ง ภายหลังได้ เปิดให้บริการตามปกติ ทั้งนี้หากเกิดเหตุการณ์การใช้กำลังทหารเมียนมาเข้าสลายการชุมนุม จะมีผลกระทบต่อฝ่ายไทย หากมีการลักลอบหลบหนีเข้ามาตามทางช่องทางธรรมชาติ ตลอดแนวชายแดนแม่น้ำสาย/แม่น้ำรวก คาดว่าจำนวนผู้ที่จะอพยพเข้ามาไม่เกิน 1,000 คน
ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมืองกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา กองทัพภาคที่ 3 ได้ให้หน่วยตามแนวชายแดนเพิ่มความเข้มงวด เฝ้าระวัง และป้องกันการเดินทางเข้ามาในพื้นที่โดยใช้การลาดตระเวนเฝ้าตรวจและใช้เครื่องมือพิเศษ ในการป้องกันการ ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยให้ความสำคัญด้านการข่าวเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและทันต่อสถานการณ์ รวมถึงประสานงานกับส่วนราชการในพื้นที่ ในการเตรียมการและซักซ้อมความเข้าใจการปฏิบัติในวันที่ 16 มีนาคม ที่จะถึงนี้ เบื้องต้นมีการจัดเตรียมพื้นที่แรกรับไว้ที่ วัดถ้ำผาจม และวัดเกาะทรายคำ สำหรับพื้นที่พักรอชั่วคราวจัดเตรียมไว้ที่ วัดปิยะพร โรงเรียนเทศบาล 1 วัดพรหมมหาราช และหอประชุมพระเจ้าพรหมมหาราช ซึ่งจะสามารถรองรับได้ประมาณ 1,500 – 2,000 คน พร้อมมีมาตรการคัดกรองไวรัสโควิด-19 ด้วย
อย่างไรก็ตามซึ่งในห้วงที่ผ่านมาได้มีการติดตั้งกล้อง CCTV ในพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่สาย ซึ่งส่งผลให้สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการจัดนายทหารพระธรรมนูญ อบรมให้ความรู้กำลังพลเกี่ยวกับข้อกฎหมายต่าง ๆ เช่น การเข้าเมือง การนำยานพาหนะเข้าออกตามแนวชายแดน การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตลอดจนวิธีการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อให้กำลังพลได้เข้าใจถึงข้อกฎหมายดังกล่าว และสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง
ทั้งนี้มีรายงานอีกว่า ในวันที่ 19 มีนาคม จะมี นายทหารชั้นผู้ใหญ่ของไทย เดินทางมาตรวจพื้นที่แนวชายแดนด้าน อ.แม่สาย เพื่อเตรียมความพร้อมพร้อมประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
แหล่งข่าวในเมืองท่าขี้เหล็ก เมียนมา ระบุว่าขณะนี้ การเคลื่อนไหวของประชาขนแบบอาระขัดขืน ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ มีมาอย่างต่อเนื่อง และเข้าใกล้จุดที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทางใดทางหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่กลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์ในพื้นที่ เช่น กองกำลังกู้ชาติไทยใหญ่ RCSS/SSA และ กลุ่มพรรคก้าวหน้ารัฐฉาน /กองทัพรัฐฉาน หรือ SSPP/SSA อาจจะมาเคลื่อนไหวช่วยเหลือประชาชน หากสถานการณ์มีการใช้อาวุธกับชาวพม่า และชาวไทยใหญ่ รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ซึ่งผู้ชุมนุมขณะนี้หยุดงาน มีอยู่ทุกวันทุกหัวเมือง เช่นเมืองท่าขี้เหล็ก ถึงแม้จะถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่ มีการตั้งด่าน พร้อมนำรถควบคุมผู้ต้องหาไล่จับผู้ชุมนุมประท้วงและกลางคืนก็มีการออกตรวจค้นตามที่พัก มีผู้ถูกจับไปบางส่วนก็ถูกปล่อยกลับมาบ้าง ซึ่งผู้ชุมนุมก็ไม่ย่อท้อ เปลี่ยนการชุมนุมใหญ่ เป็นการชุมนุมแบบดาวกระจาย รวมตัวเร็วน้อยกว่า และสลายตัวเร็ว และสถานที่รวมตัวไม่มีการแจ้งล่วงหน้าในเพจเฟสบุ๊คทั่วไป ส่วนร้านค้าต่างๆจะปิดทำการ แต่การค้าขายผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา อ.แม่สาย แห่งที่ 2 ยังคงเป็นไปตามปกติ เนื่องจากประชาชนพม่าต้องการเครื่องอุปโภคบริโภคจากฝั่งไทยเพื่อการดำรงชีพอยู่ จึงไม่มีการมาปิดสะพานพรมแดนแห่งที่ 2 เพราะเกรงจะเสียมวลชนด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: