เชียงราย-ชาวพม่า เมืองท่าขี้เหล็ก ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ต่างปิดบ้าน และร้านค้า เฝ้าระวังเหตุ เนื่องจาก จนท.พม่าประกาศไม่ให้มีการชุมนุมประท้วงเด็ดขาด เพราะ ตรงกับ วันกองทัพพม่า ครบรอบ 76 ปี การค้าขายผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ซบเซาลงไป จับตากองกำลังชาติพันธุ์อย่างน้อย 3 กลุ่ม เคลื่อนไหว
วันที่ 27 มีนาคม 2564 บรรยากาศชายแดนไทย-เมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งวันนี้เป็น วันกองทัพพม่า หรือ ตั๊ดมาดอว์ (Tatmadaw) ครบรอบ 76 ปี ที่ กองทัพพม่ามีชัยชนะ เหนือกองทัพญี่ปุ่น เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งทาง พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา ได้จัดให้มีการสวนสนามของทหารพม่า ที่ กรุงเนปิดอว์ เมืองหลวง และมีการประกาศเตือนให้ประชาชนอย่าออกมาประท้วงต่อต้านคณะรัฐประหารที่ยึดอำนาจจาก นางอองซานซูจี ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2564
สำหรับ เมืองท่าขี้เหล็ก เมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สาย ช่วงกลางคืน มีรายงานจากสื่อออนไลน์ของเมียนมา มีภาพชาวพม่าออกมารวมตัวกันกลุ่มเล็กๆเพื่อการจุดเทียนสวดมนต์ให้ประชาชนที่ถูกจับ และเสียชีวิตในประเทศเมียนมาที่ผ่านมา บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ส่วนเช้าวันนี้ประชาชนพม่า ส่วนมากหลบอยู่ในบ้านไม่ออกมานอกบ้าน ร้านค้าต่างๆในเมืองท่าขี้เหล็ก ปิดทำการเฝ้าระวังเหตุ และมีภาพการตั้งจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ในเมืองท่าขี้เหล็ก ใกล้เจดีย์ชะเวดากอง (จำลอง) และมีการจับกุมเยาวชนบางคนที่เป็นคนขับรถจักรยานยนต์ส่งอาหารเดลิเวอรี่ไปสอบสวนอย่างน้อย 1 คน ภาพรวมในท่าขี้เหล็ก วันนี้ค่อนข้างเงียบ การค้าที่ด่านพรมแดนมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ยังคงทำได้ปกติ แต่จะซบเซาลงเนื่องจากชาวพม่าไม่ออกมาสั่งซื้อสินค้าเหมือนเช่นเคย
ในหลายเมืองใหญ่ เช่น เชียงตุง มัณฑะเลย์ ฯลฯ สื่อออนไลน์พม่า ยังมีการรายงานการปะทะกันระหว่าง จนท.กับผู้ชุมนุม และมีประชาชนเสียชีวิตอยู่ต่อเนื่อง
สื่อออนไลน์ของพม่า หลายสำนัก ต่างให้จับตาว่า หลังจากวันนี้ไปการต่อสู้ระหว่าง กองทัพพม่า กับกองกำลังชนกลุ่มน้อย อย่างน้อย 3 กลุ่ม คือ คะฉิ่น-ฉาน-กะเหรี่ยงจะเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร ซึ่งทางตอนเหนือของเมียนมา ขณะนี้ กองพันที่ 20 กองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIA) เปิดฉากสู้รบกับทหารพม่า เมื่อวันที่ 24 มีนาคม บริเวณเมืองหลายจ่า ใกล้ชายแดนจีน 48 ก.ม. นอกจากนี้ในส่วนพื้นที่ เมืองศรีป้อ ซึ่งมีกองกำลังกู้ชาติไทยใหญ่ รัฐฉานเหนือ หรือ SSPP/SSA ของเจ้าป่างฟ้า เคลื่อนกำลังไปสู้รบกับ ทหารไทยใหญ่ ฉานใต้ หรือ RCSS/SSA ของ เจ้ายอดศึก ปะทะกันตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมาทั้งที่เป็นชาติพันธุ์ เดียวกัน แต่มีความขัดแย้งกันในเรื่องพื้นที่ และฉานเหนืออาจค่อนข้างมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทหารพม่า
และยังมีกองกำลังกะเกรี่ยง KNU ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่บริเวณตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก และใกล้เคียง และเพิ่งมีปัญหากรณีห้ามไม่ให้พม่านำเสบียงเข้าไปส่งให้ทหารพม่าในพื้นที่ยอดดอยของกะเหรี่ยงด้วย ซึ่งหากมีการออกปราบปรามประชาชนของกองทัพพม่า จากนี้ไปอีกต่อเนื่อง คาดว่าอาจจะเกิดรบพุ่งกันของกองกำลังชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ ที่จะออกมาปกป้องคนชาติพันธุ์เดียวกัน ทำให้อาจเกิดกระแสของการอพยพ รวมไปถึงปัญหาอีกหลายด้านทั้งเรื่องยาเสพติด และการเฝ้าระวังไวรัสโควิด-19 ขณะที่นานาชาติ และ UN ได้ประณามการใช้อาวุธทำร้ายประชาชน และบอยคอตทหารเมียนมา และการที่มีการประท้วงหยุดงานต่อเนื่อง ก็ส่งผลต่อเศรษฐกิจของเมียนมา ที่จะตกต่ำลงอีก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภูมิภาคนี้
