เชียงราย-ตำรวจ สภ.แม่สาย ร่วมกับ ทหาร กกล.ผาเมือง-ฝ่ายปกครอง ตรวจยึด กระสุนปืน M 16 รวม 6,000 นัด ระเบิดขว้างสังหาร 52 ลูก ในกล่องพัสดุ 6 กล่องใหญ่ที่ส่งมาจาก จ.ชลบุรี มาที่ อ.แม่สาย มีชายชาวแม่สาย มารับเพื่อเตรียมจ้างรถตู้ขนข้ามไปยังเมียนมา เบื้องต้นอ้างไม่รู้เรื่องว่าในกล่องมีอะไร แค่รับจ้างขน
เมื่อวันที่ 29 มี.ค.64 พ.ต.อ.พิพัฒน์ นาระเดช ผกก.สภ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกับทหาร หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง โดย พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผบ.ฉก.ม.3 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.แม่สาย ร่วมกันตรวจสอบของกลาง กระสุนปืนขนาด 5.56 ม.ม.ใช้กับปืนไรเฟิลจู่โจม ตระกูล M16 และ M4-Series รวม 6,000 นัด ระเบิดขว้างสังหารบุคคล รุ่น K 75 อยู่ในกล่องทรงกระบอกสำหรับบรรจุลูกระเบิด จำนวน 52 ลูก
ก่อนหน้าเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า มีพัสดุภัณฑ์ส่งมาผ่านบริษัทส่งด่วนเอกชนรายหนึ่งส่งมาจากจังหวัดชลบุรี และว่าจ้างให้นำไปส่งยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่เห็นว่ามีลักษณะน่าสงสัยเพราะน้ำหนักมากผิดปกติจึงขอให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดกล่องดูพบลูกกระสุนปืนขนาด 5.56 ม.ม. รวมทั้งหมด 6,000 นัด ระเบิดขว้างสังหารบุคคล รุ่น K 75 อยู่ในกล่องทรงกระบอก ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์พันทับ จำนวน 52 ลูก เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบชื่อและที่อยู่ผู้รับและผู้ส่งอย่างละเอียด พบทุกกล่องส่งมาจากชื่อและหมายเลขโทรศัพท์บุคคลเดียวกัน ส่วนผู้รับปลายทางในประเทศเพื่อนบ้าน
ต่อมา นายมโนกรณ์ สั่งสอน อายุ 30 ปี ชาวตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย ขับรถไปรับกล่องพัสดุดังกล่าว และโทรศัพท์ไปติดต่อรถตู้ขนส่งสินค้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 มี นายทรงศักดิ์ สิริชัยรุ่งเรือง อายุ 31 ปี คนขับรถตู้รับจ้าง จะมารับกล่องพัสดุดังกล่าว จึงนำตัวมาสอบสวน เบื้องต้นทั้งคู่ต่างยังให้การปฏิเสธ โดย นายมโนกรณ์ อ้างตนเป็นเพียงคนรับจ้างให้ไปรับส่งกล่องพัสดุไปส่งให้ผู้รับที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก โดยมีผู้ประสานมาจากท่าขี้เหล็ก และ จ.ลำปาง โดยเมื่อไปถึงจะมีผู้ติดต่อสั่งการมาอีกครั้งหนึ่ง เพราะคิดว่าเป็นสินค้าถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ทราบว่าเป็นอาวุธสงคราม ส่วนนายทรงศักดิ์ ก็ให้การว่าตนเป็นเพียงคนขับรถตู้รับจ้าง ไม่ทราบว่าเป็นสินค้าชนิดใดเช่นกัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงทำการสอบปากคำอย่างละเอียดและรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อพิจารณาดำเนินคดี “มีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียน ไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ต่อไป
