เชียงราย-ตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สืบเสาะจับผู้ต้องหาโพสต์เฟซบุ๊กหลอกเหยื่อหลายราย ไปทำงานต่างประเทศ เหยื่อศูนย์เงินนับล้าน
เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2564 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.40 น. มีผู้เสียหายหลายรายได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) เกี่ยวกับคดีหลอกลวงผู้อื่น โดยผู้ต้องหาอ้างว่าสามารถจัดหางานหรือส่งคนไปฝึกงานในต่างประเทศได้ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ต.รณชัย จินดามุข ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.รชตโชต ลีวาณิชคุณ พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษฯ พ.ต.ท.จักร ถนัดอักษร รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ พ.ต.ท.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ คัมภีระ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบ จนสามารถทราบผู้ต้องหาคือ นายวิษณุ วิมุติ อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ที่ 8 ต.ครึ่ง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ทราบว่ายังมีหมายจับของ ศาลจังหวัดอุดรธานี และศาลจังหวัดบึงกาฬ จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาซึ่งเป็นสาวประเภทสอง พักอาศัยอยู่ที่แถวจังหวัดเชียงราย บริเวณอำเภอเทิง พระยาเม็งราย เชียงแสน อยู่ไม่มีที่อยู่ที่แน่นอนต่อมาวันที่ 10 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พญาเม็งราย นำกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณบนถนนทางสาธารณะบ้านสันหลวง หมู่ที่ 8 ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย พบนายวิษณุ วิมุติ ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ข้อหากระทำผิดฐาน “หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถจัดหางานหรือส่งคนไปฝึกงานในต่างประเทศและได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง และ ฉ้อโกง” ผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุม มาอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิม โดย นาย วิษณุ มีพฤติการณ์หลบหนีโดยไปเช่าโรงแรมและพักตามบ้านเพื่อน ในพื้นที่ อ.เทิง อ.เชียงของ และ พื้นที่ อ.พญาเม็งรายจนกระทั้งสืบทราบว่า นายวิษณุหลบหนีไปอยู่ที่บ้านเพื่อน ชื่อนายเก่ง ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง บ้านสันหลวง หมู่ที่ 8 ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย จึงได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านดังกล่าว พอไปถึง พบ นายวิษณุฯ ผู้ต้องหา ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้าน เมื่อ นายวิษณุฯ เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วิ่งหลบหนี จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้วิ่งติดตามไป สามารถควบคุมตัวได้ส่งไปยัง สภ.เม็งรายเพื่อทำการสอบสวนและบันทึก และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานีเพื่อดำเนินการต่อไปจากการสอบผู้เสียหายซึ่งมีประมาณ 30 คน มูลค่าความเสียหายประมาณล้านกว่าบาท ทราบว่านายวิษณุฯต้องหาจะใช้เฟซบุ๊กชื่อ “จิมมี่ คนหางานต่างประเทศ” โพสต์เชิญชวนไปทำงานต่างประเทศ พอมีคนสนใจทักไป ก็ให้เบอร์ติดต่อโทรคุย พอคุยแล้วก็ให้แอดไลน์ คุยติดต่อส่งเลขบันชีให้ผู้เสียหาโอนเงิน ค่าทำประกัน ค่าทำวีซ่า 25,000 บาท และมีค่าประกันโควิดอีก 15,000 บาท โดยแต่ละคนจะโดนหลอกให้โอนไม่เท่ากัน แต่ละรายไม่ต่ำกว่า4-5 หมื่นต่อคน นายวิษณุผู้ต้องหายังเคยโดนจับดำเนินคดีเดียวกันนี้ 6 7 คดี และพึ่งออกจากเรือนจำไม่นานมานี่ และยังกลับมาทำพฤติอย่างเดิมอีก เตือนสติผู้ที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ โดยเฉพาะการติดต่อสื่อสารทางออนไลน์ในการโฆษณาจัดหางาน อาศัยความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในการชักชวนคนหางานไป พึงต้องระวัง หาข้อมูลจากแหล่งเชื่อถือได้
ต้ทำงานต่างประเทศ
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: