เชียงราย-จับลักลอบหนีเข้าเมืองเป็นหญิง สารภาพข้ามไปเมื่อ1 ก.พ. และลักลอบกลับมา จึงมาถูกจับเสียก่อน จ่ายค่านำพา 11,000 บาท
จากเพจ ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรีมีรายงาน นายกรัฐมนตรีสั่งคุมเข้มชายแดน ไม่ให้มีโควิดสายพันธุ์ใหม่ หวั่นลักลอบมาพร้อมผู้ลักลอบข้ามแดน ทางด้าน พล.ท.คงชีพ ต้นตระวาณิชย์ โฆษก เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม.รมว.กห. ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง ทหารและตำรวจ เฝ้าระวังสกัดกั้นชายแดน ป้องกันการลักลอบเข้า เมืองผิดกฎหมาย ยาเสพติดและการค้ามนุษย์ หวั่นนำเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่เข้ามา เน้นย้ำประสานสืบจับกุมทำลายเครือข่ายอย่างจริงจัง และหากพบเจ้าหน้าที่รัฐมีเอี่ยวจะดำเนินการทางอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่มีการละเว้นทางด้านชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีเขตแนวชายแดดติดต่อเมียนมาตลอดแนวชายแดน จนท.ออกตรวจคุมเข้มลาดตระเวนตามแนวชายแดน ทั้งชั้นนอกชั้นใน จนกระทั้งจับผู้ที่ลักลอบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์พิษเศรษฐกิจ และการอารยะขัดขืนของกลุ่มผู้ประท้วง ทางตอนในเมียนมา ล่าสุดวันที่ 20 พ.ค.64
กลางดึกคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทหารร้อย ม.สกัดกั้นที่ 2 กองกำลังผาเมือง ผาเมือง ได้ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจพื้นที่เพ่งเล็ง ช่องทางและท่าข้าม บริเวณบ้านศรีป่าแดง ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ติดชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าออกเมือง ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย จำนวน 1 ราย ทราบชื่อตอมาว่า น.ส.ปราณี วรรณสุข อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 20/2 หมู่ 3 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย เป็นผู้ถือบัตรประจำตัวประชาชนผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนหรือบัตรหัวศูนย์ เดินอยู่ริมฝั่งลักษณะพึ่งหลบหนีข้ามลำน้ำสายที่เป็นเส้นเขตแดนเข้ามาเจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัว สอบปากคำเบื้องต้น น.ส.ปราณี ให้การรับสารภาพว่าหลบหนีเข้าเมือง โดยระบุว่าจะไปพักอยู่ที่บ้านธนธานี หมู่ที่ 3 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จึงได้ลักลอบมาจากฝั่งเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ที่อยู่ตรงกันข้ามโดยเสียค่าใช้จ่ายให้กับคนนำพาในฝั่งประเทศเมียนมา เป็นเงินจำนวน 11,000 บาท ให้ช่วยชี้จุดและพาข้ามฝั่งมาได้สำเร็จ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า ทำการลักลอบเข้าราชอาณาจักรไทย โดยผิดกฎหมาย และส่งมอบตัวให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เกาะช้าง อ.แม่สาย ดำเนินคดีตามกฎหมายสำหรับผู้ต้องหารายนี้รับอีกว่าได้ลักลอบข้ามจากฝั่งไทยไปยังเมืองท่าขี้เหล็กบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 มาแล้วเมื่อวันที่ 1 ก.พ.เพื่อไปทำงานเป็นแม่บ้านที่หมู่บ้านสันทราย เมืองท่าขี้เหล็ก จากนั้นครั้งนี้ได้ลักลอบกลับมาเพื่อจะกลับมาพบบุตรที่บ้านในฝั่งไทยโดยใช้ชองทางบริเวรหมู่บ้านศรีป่าแดงดังกล่าวรายงานข่าวแจ้งว่าก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงใน จ.เชียงราย ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ และพลเรือน ในนาม บก.สกัดกั้นแรงงานต่างด้าว 3 ฝ่าย ได้เชิญตัวกลุ่มเป้าหมายที่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวเข้า-ออก ทางชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไปสอบถามข้อเท็จจริงในพื้นที่โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นชาย 2 คน คนหนึ่งมีฉายาว่า “แก้วท่าว้า” อายุ 56 ปีชาว อ.แม่สาย ซึ่งเจ้าตัวรับสารภาพว่าในอดีตได้ช่วยเหลือนำพาบุคคลและแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาให้เข้าออกชายแดนจริง โดยเฉพาะตรงบริเวณท่าข้ามท่าว้าใกล้กับสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ดังกล่าวแลกกับค่าจ้างหัวละ 3,000-5,000 บาท แต่ปัจจุบันได้เลิกทำแล้ว.
ข่าวน่าสนใจ:
- บุรีรัมย์ เตือนวัยรุ่นอย่าทำ ขับรถหวาดเสียว ยกล้อโชว์ จับส่งศาล ศาลพิพากษาสั่งปรับและจำคุก
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- ด่วน ! ผู้ประสบอุทกภัย ต้องได้รับเงิน 9 พันจากรัฐบาล
- กาญจนบุรี พิธีตักบาตรพระ 10,000 รูป ฉลองตั้งเมือง 193 ปี พร้อมอุทิศส่วนกุศลแด่บรรพบุรุษผู้มีพระคุณต่อประเทศชาติ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: