เชียงราย-จังหวัดเชียงรายขอความร่วมมือทางการ สปป.ลาวประสานคนไทย ที่ประสงค์ขอกลับประเทศไทย ที่กำลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโนา 2019 ตามนโยบาย “คนไทยไม่ทิ้งกัน”
วันที่ 20 พ.ค.2564 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ขอประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อกรณีการนำเสนอข่าว กรณีพบมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในคิงส์โรมัน เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงข้ามกับอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย มีการรายงานว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้ประสานขอความร่วมมือไปยังแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ให้ดูแลคนไทยที่เดินทางเข้าไปทำงาน พร้อมขอความร่วมมือ ช่วยสำรวจคนไทยที่มีความประสงค์ของคนจะเดินทางกลับประเทศไทยหรือไม่จังหวัดเขียงราย ได้มีหนังสือขอความอนุเคราะห์ไปยังเจ้าเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ขอความอนุเคราะห์สำรวจคนไทยที่ตกค้างในพื้นที่ของเมืองต้นผึ้ง สปป.ลาว ซึ่งมีราษฎรไทยบางคนมีความประสงค์ขอกลับประเทศ ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่คนไทย ที่อาศัยเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ (คิงส์โรมัน) และเมืองต้นผึ้ง ซึ่งประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่กระทรวงการต่างประเทศกำหนดโดยให้เดินทางเข้าที่จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 (เชียงของ – ห้วยทราย) เท่านั้น ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว เป็นมาตรการควบคุม เพื่อป้องกันมิให้มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย อันจะนำไปสู่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ จังหวัดเชียงรายจะได้นำข้อมูลที่ได้รับการสำรวจมาวางแผน เพื่อดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยมีข้อมูลยืนยันของคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อป้องกัน ควบคุม แก้ไขการระบาดของเชื้อโควิด 19 แขวงบ่อแก้ว (หรือ สบค.แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว)เมื่อวันที่ 17 พ.ค พบว่า ในแขวงบ่อแก้วมีผู้ติดเชื้อสะสม 428 คน กำลังรักษา 300 คน รักษาหายแล้ว 128 คน ยังไม่พบผู้เสียชีวิต แบ่งเป็นเมืองต่าง ๆ ดังนี้ คือ เมืองห้วยทราย 40 ราย เมืองต้นผึ้ง 387 ราย เมืองเมิง 0 ราย เมืองผาอุดม 0 ราย และเมืองปากทา 1 ราย โดยมีการสุ่มตรวจจำนวนการตรวจตัวอย่าง 953 ราย พบติดเชื้อ 38 ราย ไม่ติดเชื้อ 915 ราย แม้จะได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว 67,655 คน และได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 4,726 คน จังหวัดเชียงรายได้ดำเนินการนำผู้เดินทางกลับราชอาณาจักรไทยผ่านของทางจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 4 จำนวน 167 คน และได้นำเข้าสู่กระบวนการกักกันตัวไว้สังเกตอาการ ณ สถานที่กักกันที่รัฐกำหนด (Local Quarantine ) ทุกคน ตามนโยบาย “คนไทยไม่ทิ้งกัน” โดยจะไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามความมุ่งมั่นของรัฐบาลอีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: