เชียงราย-บจก.บริหารท่าเรือเชียงแสน 1. ฟ้องร้องค่าเสียหายกับ เทศบาลเชียงแสน ถึง 85,000,000 บาท (แปดสิบห้าล้านบาท) กรณีเทศบาลเชียงแสนยกเลิกสัญญาจ้าง (นายกใหม่มานั่งเก้าอี้ เวียนหัวไปตามๆ กัน) และใครเป็นผู้อนุมัติให้ บจก.เข้ามาบริหาร และใครสมควรถูก บจก.ฟ้อง และใครจะถูก ปปช.สอบ
วันที่ 24 มิ.ย.2564 มีรายงานมาว่า จากกณีทางเทศบาลเชียงแสน ให้บจก.แห่งหนึ่งเข้ามารับช่วงบริหาร (ไม่สามารถทำได้) โดยที่ไม่มีการเปิดการประมูลงาน และทางเทศบาลเชียงแสนได้บอกเลิกสัญญาจ้าง ทำให้บจก.ดังกล่าวได้ยื่นหนังสือร้องค่าเสียหาย เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2559 ให้กับเทศบาลเชียงแสน อ้างคำสั่งเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน ที่ 750/2558 ลงวันที่ 28 ส.ค.2558 อ้างถึงระหว่างรอมติ ครม.ทางเทศบาลเชียงแสน ให้ บจก.เข้ามาบริหารเกิดการลงทุน และมาบอกยกเลิกสัญญา ทำให้ บกจ.ได้รับความเสียหาย จึงยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย จำนวน 85,000,000 บาท (แปดสิบห้าล้านบาท) ในช่วงฝ่ายบริหารเก่า-เจ้าหน้าที่เดิม ยังเป็นข้องพิพาทกันอยู่ระหว่าง บจก.กับเทศบาลเชียงแสน 
เกิดข้อสงสัย ตามมติ ครม.เทศบาลเชียงแสนไม่สามารถจ้าง บจก.เข้ามาบริหารได้ นอกจากสามารถตั้งทีมบริหารท่าเรือได้ ใครเป็นผู้จัดหาจัดจ้าง (รอ ปปช.)กระทั้งมีการฟ้องร้องค่าเสียหาย ทำให้รัฐเสียประโยชน์ การบริหารท่าเรือต้องขึ้นกับทางเทศบาลเชียงแสนอย่างเดียว ตามมติ ครม. จากการสอบถาม ปปช.กำลังดำเนินการไต่สวน มีหลักฐานทั้งหมดแล้ว อยู่ในระหว่างดำเนินการชี้มูลความผิด ผู้ที่นำเนินการ เรื่องท่าเรือเชียงแสนในระหว่างนั้น และทางนายกท่านใหม่ ต้องรีบเข้าดำเนินการ หวั่นเกิดการ พากันไปซ้ำซ้อนอาจเข้าข่ายอีกครั้ง และตั้งรับหลังโควิดซา เกิดการท่องเที่ยวเชียงแสนอีกครั้ง จะได้นำงบมาบริหารเมืองเก่าเวียงเชียงแสน ที่มีกลิ่นไอวัฒนธรรมเมืองเก่า ร่องเรือชมแม่น้ำโขงสองฝากฝั่ง ไทย-ลาว 
