เชียงราย-ผู้บริหารบริษัท อาร์ ที พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ลงพื้นที่โครงการบ้านเอื้ออาทร 2. สร้างความเข้าใจให้กับผู้เช่าซื้อบ้านเคหะ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ในการจ่ายเงินผ่อนเช่าซื้อกับบริษัท หรือการเคหะ
วันที่ 26 มิ.ย.2564 นายเรืองยศ วันโพนทอง ประธานกรรมการบริหารบริษัท อาร์ ที พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้เดินทางมาชี้แจงให้การผู้เช่าซื้อ อยู่อาศัยบ้านเอื้ออาทรโครงการ 2. ที่เกิดข้อพิพาทระหว่างการเคหะ กับทางบริษัท ที่ทำให้ชาวมาเกิดความสับสน ในการผ่อนเช่าซื้ออยู่ในขณะนี้ ว่าจะต้องผ่อนจ่ายเช่าซื้อกับใคร เกิดข้องสงสัยกับผู้อาศัยอยู่ในโครงการ โดยมีผู้รับได้รับผลกระทบร่วมเข้ารับฟังการชี้แจง 100 กว่าราย
นายเรืองยศ กล่าวว่าทาง บริษัท อาร์ ที พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (RTD)กับการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ถึงกรณีที่ทางบริษัทกับการเคหะ เมื่อปี 2546 การเคหะแห่งชาติ ประสบปัญหาที่มีอาคารว่างคงเป็นจำนวนมาก อาคารถูกทิ้งร้างชำรุดทรุดโทรม ขาดงบประมาณในการดูแลรักษา คณะกรรมการการเคหะแห่งชาติในสมัยนั้น จึงได้มีนโยบายให้มีการจ้าง เอกชน เข้ามารับภาระการบริหารแทนการเคหะแห่งชาติ โดยการประกวดราคาแข่งขันกัน โดยได้มีข้อตกกับบริษัทที่ประมูลงานได้ ให้รับผิดชอบ ทั้งในเรื่องค่าซ่อมแซมปรับปรุงอาคาร และระบบสาธารณูปโภค โดยเป็นทุนทรัพย์ขอบริษัทเอกชน มีบริษัทเอกชนรับผิดชอบบริหารอาคารเช่าอยู่ประมาณ 40 บริษัท โดยทางบริษัทยึดหลักการให้การเคหะแห่งชาติเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด และทางบริษัท RTD เป็นอีกบริษัทที่ได้รับโอนสิทธิ์และทำตามเงื่อนไขต่อ เพื่อบริหาร จนกระทั้งดำเนินการต่อสัญญากับการเคหะมาจนถึง 16 ปี
จนเกิดประเด็นปัญหาข้อพิพาทกับทางบริษัทและการเคหะ 1.อ้างถึงความไม่เป็นรับธรรมเนื่องจากการเคหะ ที่แจ้งบริษัทฯให้ปรับลดค่าเช่า เพื่อช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยในโครงการฯ จากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน2563 ซึ่งบริษัทฯ ได้ปรับลดให้ผู้อยู่อาศัยตามเกณฑ์ที่การเคหะกำหนดอย่างถูกต้อง แต่ทางการเคหะกับมาเรียกเก็บค่าเช่ากับทางบริษัทเต็มตามสัญญา ไม่ลดให้ทางบริษัท ตามที่มีข้อตกลงกันมาก่อนหน้า จึงทำให้บริษัทฯไม่สามารถชำระค่าเช่ากับการเคหะ ตามอัตราเต็มได้ที่ได้กำหนด
2.ทางเคหะบอกเลิกสัญญาเช่ากับบริษัทฯ ด้วยเหตุจากข้อ1 เคหะได้บอกเลิกสัญญาเช่ากับ บริษัทฯ มีการเรียกร้องให้ บริษัทฯ ชำระค่าเช่าเต็มจำนวนพร้อม ค่าปรับอีกร้อยละ 2 ต่อเดือน และค่าเสียหายต่างๆ อีก ทางบริษัทจึงฟ้องดำเนินคดีกับการเคหะโดยขออำนาจศาล ขอความเป็นธรรมให้ศาลคุ้มครองสิทธิของบริษัทฯในการบริหารจัดการเช่นเดิม และกรณีที่กล่าวหาว่า บริษัทฯ ไม่มีสัญญากับเคหะ ทำให้มีข้อพิพาทกันแบบไม่ชัดเจนตามข้อตกลง ซึ่งก่อนหน้าทางบริษัทฯได้ชำระค่าเช่าให้กับการเคหะมาโดยตลอด เป็นปกติทุกเดือน จึงถือว่าสัญญายังไม่ระงับ หรือเลิกสัญญาโดยอ้างว่าบริษัทฯไม่มีสัญญาไม่ได้ 3. ระหว่างการฟ้องดำเนินคดีกับการเคหะ ทางบริษัทฯใช้สิทธิทางกฏหมายครอบครองและดูแลอาคารเช่าในโครงการเคหะ จนกว่าจะมีคำสั่งศาล หรือ คำพิพากษา และทางบริษัทฯจะนำเงินที่เก็บจากผู้เช่าไปวางไว้ที่ศาล เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อการเคหะ
ทางบริษัทยังคงต้องดูแลค่าใช้จ่าย ส่วนกลางต่างๆ เช่น ค่าปรับปรุงซ่อมแซม ค่าดูแลส่วนกลาง ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า แม่บ้าน และ รปภ. เพื่อรักษาความสะอาดและความปลอดภัยให้ผู้อยู่อาศัยโครงการ ดังนั้น บริษัทฯ จึงยังคงมีสิทธิ์ใน การจัดเก็บค่าเช่า และทางบริษัทยังคงชำระค่าเช่าให้กับการเคหะ ตามปกติในอัตราที่เป็นธรรม (โดยนำไปวางไว้ที่ศาล) เพื่อความสบายใจของผู้เช่าซื้อโครงการ
4. บริษัทฯ ขอให้การเคหะหยุดการกระทำ สร้างความสับสนกับผู้อยู่อาศัย เช่น การเชิญชวนให้ผู้เช่ามา ทำสัญญากับการเคหะ และไม่ให้จ่ายค่าเช่าและอื่นๆกับทาง บริษัทฯ ถือได้ว่าการเคหะละเมิดสิทธิ์ของบริษัทฯ ในฐานะผู้บริหารซึ่งมีสิทธิ์บริหารโครงการอยู่ตามกฎหมาย โดยถือว่าสัญญายังไม่สิ้นสุด (ตามที่กล่าวในข้อ2) 5.ช่วงนี้ผู้อยู่อาศัยโครงการ ที่ได้รับความเดือนร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 บริษัทฯขอเรียกร้องให้การเคหะพิจารณาช่วยเหลือผู้อยู่อาศัย ซึ่งส่วนมากเป็นผู้มีรายได้น้อย โดยบริษัทฯ พร้อมที่จะสนับสนุน 6. ผู้เช่าอยู่อาศัยทุกห้องควรจะต้องชำระค่าเช่ากับบริษัทและปฏิบัติตามระเบียบการอยู่อาศัยเป็นปกติ ไม่ต้องปฏิบัติตามที่การเคหะแจ้ง เพราะ บริษัทฯยังให้บริการและรับผิดชอบค่าส่วนกลางอยู่ทั้งหมดประชาชน ผู้เช่า และผู้บริหารการเคหะแห่งชาติ ควรได้รับรู้ความจริงครบทุกด้าน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหากับทางบริษัทเพื่อนำไปแก้ไขได้ถูกต้อง ตรงประเด็น
ส่วนทางด้าน นายเรืองยศ กล่าวว่าทาง บริษัท อาร์ ที พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (RTD) ยังกล่าวอีกว่า อยากให้การเคหะระงับการแจ้งให้ลูกบ้านเพื่อรอคำสั่งพิพากษาศาล และให้ฝ่ายบริหารการเคหะแห่งชาติ เข้ามานั่งจับเขาคุยกัน หาทางออกร่วมกัน เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสนในการเช่าซื้ออยู่อาศัย ให้ประชาชนที่อยู่ระหว่างกลาง การพิพาทบริษัทและการเคหะได้ข้อมูลที่ชัดเจน
