เชียงราย-ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจเยี่ยมพื้นที่หมู่บ้านไทยสมุทรเชียงราย หลังพบแรงงานชาวเมียนมาติดเชื้อโควิด–19
วันที่ 7 ก.ค.2564 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมกับ นายแพทย์ ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ ปลัดจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายสมกิจ เกศนาคินทร์ นายอำเภอเมืองเชียงราย อาจารย์ สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการจากสำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) ในฐานะผู้ประสานงานศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติในจังหวัดเชียงราย เทศบาลนครเชียงราย รวมทั้งนายแพทย์ ภุชงค์ ชื่นชม รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ร่วมกันเข้าตรวจเยี่ยมพื้นที่หมู่บ้านไทยสมุทร หมู่ที่ 13 ตำบลสันทราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เมื่อเช้าวันพุธที่ 7 กรกฎาคม 2564 ซึ่งพบแรงงานชาวเมียนมา เป็นชายอายุ 30 ปี 1 ราย ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จนทำให้ต้องปิดบางพื้นที่ในซอย 2 และซอย 3 ภายในหมู่บ้าน เพื่อกักกันชาวเมียนมาภายในจำนวน 31 ครัวเรือน รวม 70 คน จำกัดไม่ให้ออกนอกเคหะสถานและสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน
โดยสถานการณ์เฉพาะหน้า เทศบาลนครเชียงรายได้ให้การช่วยเหลือนำอาหาร และน้ำดื่มไปมอบเพื่อยังชีพในเบื้องต้น และศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติฯ ได้ตั้งจุดคัดกรองตามมาตรการสาธารณสุขเพื่อสร้างความมั่นใจแก่คนในหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียงโดยรอบด้วย
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังวัดเชียงราย กล่าวว่า ชุมชนนี้เป็นแห่งแรกของจังหวัดเชียงราย ที่มีลักษณะเป็นบ้านเช่าที่มีแรงงานต่างด้าวเช่าอาศัยกันแออัด ต่อมา มีผู้ป่วยซึ่งเดินทางมาจากเชียงใหม่เข้าไปอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน 2 – 3 วัน เพราะกำลังจะไปสมัครเข้าทำงานในจังหวัดเชียงราย แต่ตรวจพบการติดเชื้อเสียก่อน ปัจจุบันรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนกลุ่มเสี่ยงสูงที่มีอยู่ 3 – 4 คน ได้ตรวจหาเชื้อครั้งแรกพบผลเป็นลบ ซึ่งก็คาดว่าเชื้อจะไม่กระจายออกไปอีก ดังนั้น พบว่าปัจจุบันมีนายจ้างของแรงงานนอกพื้นที่ควบคุมเกรงผลกระทบก็ไม่ให้แรงงานกลับไปทำงานอีกทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสร้างความมั่นใจเพื่อให้ผ่านพ้นไปให้ได้ต่อไป
ด้าน อาจารย์ สืบสกุล กล่าวว่า จากกรณีปัญหานายจ้างไม่รับคนงานที่อยู่ในซอยข้างเคียงเข้าทำงาน เพราะมาจากหมู่บ้านเดียวกับผู้ติดเชื้อนั้น ล่าสุดได้รับแจ้งจากจังหวัดว่า เจ้าหน้าที่จะรับตรวจหาเชื้อในประชากรที่อยู่ซอย 3 และ ซอย 4 แล้ว เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นายจ้างและแก้ผลกระทบของลูกจ้าง สำหรับชุมชนแห่งนี้มีชาวเมียนมาอาศัยอยู่ กว่า 90 % ลักษณะเป็นครอบครัวที่ทำงานรับจ้างอยู่ในตลาดค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่และรับจ้างทั่วไป
