เชียงราย-อบจ.เชียงราย ถือฤกษ์ดีจัดกิจกรรมดีเดย์ 9.9 Kick off ฉีดวัคซีนทางเลือก “ซิโนฟาร์ม” ล็อตที่ 2 จำนวน 90,000 โดส
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ก.ย. 64 นายประจญ ปรัชญสกุล ผู้ว่าราชจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน Kick off การฉีดวัคซีนทางเลือก “ซิโนฟาร์ม” ให้แก่ประชาชน ที่อาคารคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ถ.สหมิตร ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย โดยมีนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นายแพทย์ วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย แพทย์หญิง เยาวลักษณ์ จริยพงศ์ไพบูลย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายผลิตบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ร่วมเป็นเกียรติในกิจกรรมครั้งนี้
นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย เผยว่า ในวันนี้ อบจ.เชียงราย ได้บูรณาการร่วมกันกับคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย ในการจัดฉีดวัคซีนทางเลือก “ซิโนฟาร์ม” ให้กับพี่น้องประชาชนชาวเชียงราย ซึ่งวัคซีนดังกล่าวได้ผ่านการเห็นชอบจากสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย โดยใช้งบประมาณทั้งหมด 88 ล้านบาท ซึ่งสามารถจัดซื้อวัคซีนได้จำนวน 100,000 โดส เพื่อฉีดให้กับพี่น้องประชาชนชาวเชียงราย 50,000 คน เพื่อสร้างภูมิคุัมหมู่ โดยทางจังหวัดเชียงรายได้รับการจัดสรรวัคซีนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์รอบแรก 10,000 เพื่อฉีดให้ประชาชน 5,000 คนโดยได้จัดกิจกรรมคิกออฟในรอบแรกเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา ส่วนในครั้งนี้จะเป็นกิจกรรมคิกออฟในรอบที่ 2 มีวัคซีนที่เข้ามาในรอบนี้จำนวน 90,000 โดส สำหรับฉีดให้ประชาชน 45,000 คน โดยจะกระจายไปยังโรงพยาบาลประจำอำเภอทั้ง 18 อำเภอ จะรับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานกับผู้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นเชียงรายร่วมใจ กิจกรรมคิกออฟในวันนี้จัดขึ้นที่อาคารคชสาร มีเจ้าหน้าที่แพทย์จาก รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ มาให้บริการฉีดวัคซีน วันนี้ชาวบ้านในพื้นที่ในเขต ต.แม่ข้าวต้ม ต.ท่าสุด และ ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย มารับบริการฉีดวัคซีน จำนวนทั้งสิ้น 999 คน
“หลังจากพี่น้องชาวเชียงรายได้รับการฉีดวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายกันแล้ว ปัญหาใหญ่ที่จะตามมาหลังผ่านพ้นวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ก็คือ “ปัญหาเศรษฐกิจ” เพราะทุกวันนี้ประชาชนขาดอาชีพ ขาดรายได้ สภาพชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาดังกล่าว และก่อนจะไปถึงจุดนั้น ก่อนอื่นยังมีปัญหาที่ต้องให้ความสนใจคือ การแพร่ระบาดของโรคโควิดในพื้นที่เมืองชายแดนอย่าง อ.แม่สาย ซึ่งมีประชากรแฝงอยู่เป็นจำนวนมาก จากที่ได้มีโอกาสลงพื้นที่ พบว่ายังมีการแพร่ระบาดอยู่จำนวน 2 คลัสเตอร์ คือ ในเขต ต.แม่สาย และ ต.โป่งผา ทุกภาคส่วนต้องมาร่วมกันหาทางออกว่าจะมีวิธีบริหารจัดการอย่างไรไม่ให้เกิดการแพร่กระจายไปสู่ชุมชนภายนอก ซึ่งตนก็ได้นำข้อมูลที่ได้รับหลังการลงพื้นที่ ไปปรึกษากับสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และจะได้เร่งตรวจหาเชื้อคนในพื้นที่เพื่อคัดกรองผู้ติดเชื้อ อย่างไรก็ตามการควบคุมการแพร่ระบาดทึ่ได้ผล ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน การปฏิบัติตัวหลังจากรับวัคซีนไปแล้ว ก็ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดอยู่ และอยากฝากไปยังภาครัฐเร่งจัดหาวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชนโดยเร็ว จะได้เร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ถึง 70% เพื่อที่เราจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติโดยเร็วที่สุด” นางอทิตาธร กล่าว
ข่าวโดย : วิโรจน์ วงศ์ใหญ่
