เชียงราย-บริษัทไทย ร่วมจับมือกันผลักดันผลิตภัณฑ์ กระท่อมไทย ส่งออกจีน สร้างรายได้ให้กับชุมชน
วันที่ 23 ธ.ค.2564 ที่ห้องประชุม โรงแรมไชยนารายณ์ ริเวอร์ไซด์ เชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ภาคเอกชนหลายรายประกอบด้วยบริษัทไร่เพชรตะวัน จำกัด และบริษัทไอรดากรุ๊ป เฮลธ์แคร์ คอสเมติก จำกัด ร่วมกับบริษัทกระท่อมไทย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ส่งออกผลิตภัณฑ์สินค้าแปรรูปกระท่อมและสมุนไพรส่งไปยังประเทศจีน หลังจากที่ 2 บริษัทแรกได้มีแผนจะส่งเสริม และขยายการปลูกต้นกระท่อมไปทั่วประเทศไทย และส่วนหนึ่งคือพื้นที่ภาคเหนือที่อยู่ใกล้กับตลาดจีน จากนั้นนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชาใบกระท่อม แค็ปซูล เครื่องสำอาง น้ำกระท่อม และสมุนไพรอื่นๆ โดยมีบริษัทกระท่อมไทย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ประสานการตลาดเพื่อส่งออกไปยังตลาดประเทศจีน ตั้งเป้าให้มีการปลูกในปี 2565 เป็นต้นไป
นางวิยะดา พลประสิทธิ์ ประธานกรรมการบริษัทไร่เพชรตะวัน จำกัด กล่าวว่าบริษัทมีเป้าหมายจะปลูกพืชกระท่อมให้ได้จำนวน 10 ล้านต้นทั่วประเทศไทย เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค จึงได้จัดหาแหล่งผลิตที่ทำให้ต้นกระท่อมได้คุณภาพ จากเมื่อได้ผลผลิตแล้วจะส่งไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์และสมุนไพร โดยมีแผนจะสร้างโรงงานเพื่อรองรับการปลูกดังกล่าวให้ได้ 20 แห่งทั่วประเทศไทยและโรงอบในวิสาหกิจชุมชนทั่วทั้ง 77 จังหวัด รวมทั้งมีนโยบายจะขยายเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนให้ได้ 100 วิสาหกิจชุมชน นอกจากนี้ยังจะขยายธุรกิจเพื่อชุมชนโดยจะนำรายได้สิ้นปี 20% ไปสร้างงานสร้างอาชีพให้คนไร้งาน เช่น นักโทษที่พ้นโทษ เด็กจากสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก ฯลฯ ภายใต้แฟรนไชส์ “ต้มท่อม” อีกด้วย
นายบรรเจิด สาริพัฒน์ ประธานกรรมการบริษัทกระท่อมไทย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่าจากการหารือกับเครือข่ายในประเทศจีนพบว่านิยมบริโภคใบกระท่อมแบบชงชา ชาใบกระท่อมจึงถือเป็นจุดเด่นหรือไฮด์ไลน์ของสินค้าชนิดนี้ทำให้สินค้าตัวแรกที่จะส่งเข้าไปยังประเทศจีนจึงเป็นลักษณะใบชาก่อน นอกจากนี้ในการแพทย์แผนจีนยังมีส่วนผสมของกระท่อมเป็นจำนวนมาก ดังนั้นใบกระท่อมจึงถือว่าสอดรับการตลาดประเทศจีนเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากมีการจัดทำผลิตภัณฑ์และได้รับ อย.แล้วก็จะส่งออกเพิ่มเติม กระนั้นยังไม่สามาถแจ้งยอดสั่งซื้อหรือออเดอร์เนื่องจากต้องรอให้ได้ผลิตภัณฑ์และ อย.ก่อน
ด้านนายสุภักดิ์ เศรวตวิษุวัติ อดีตนายอำเภอเวียงแก่น จ.เชียงราย ปัจจุบันเป็นรองประธานกรรมการบริษัทกระท่อมไทย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่าตนและนายบรรเจิดเป็นอดีตนายอำเภอรุ่นเดียวกัน ได้รับการชักชวนให้ดำเนินโครงการนี้เพื่อให้เกิดรายได้แก่ประชาชนในภาคเหนือซึ่งตนก็ใช้เวลาพิจารณานานมากเพราะตนเคยทำงานในพื้นที่มาก่อนหากไม่ดีอาจส่งผลต่อชื่อเสียงของตนในพื้นที่ได้ กระทั่งได้ศึกษาข้อมูลก็ได้ตอบตกลงทำทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะเมื่อทราบว่าสามารถนำมาแปรรูปเป็นชาเพื่อชงดื่มทำให้มีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพ เช่น นอนหลับได้ดี ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ฯลฯ ล่าสุดตนได้พูดคุยกับเครือข่ายในประเทศจีนก็ทราบว่ามีความต้องการสินค้าประเภทนี้อย่างมากจึงได้นำบริษัทลงนามเอ็มโอยูในครั้งนี้ดังกล่าว ซึ่งต่อไปก็จะเป็นขั้นตอนตั้งแต่การส่งเสริมการปลูก การรับซื้อ การจัดทำผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตจากองค์กรอาหารและยา (อย.) และผลักดันไปสู่การส่งออกต่อไป.
