เชียงราย- รวบตัวผู้ต้องหา 2 ราย อีก 3 หนีเข้าป่ากระเจิงรอดคุกหวุดหวิด ขณะลำเลียงใส่กล่องไปรษณีย์ยกขึ้นรถ รองแม่ทัพภาค 3 สั่งสกรีนเช็ครอบพื้นที่ ขณะที่ตำรวจแม่จัน สกัดจับได้อีกเกือบ 18,000 เม็ด
เวลา 15.00 น. วันนี้(22 พย.2561) ณ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ พื้นที่พิเศษดอยเวียงผา กรมทหารราบที่ 17 บ้านโป่งนก หมู่ที่ 6 ต.สันสลี อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย พล.ต.บัญชา ดุริยพันธุ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 ราย พร้อมทั้งนำยาบ้า จำนวน 6,096,000 เม็ด รถยนต์กระบะของกลาง ยี่ห้อมาสด้า BT 50 หมายเลขทะเบียน 2076 เชียงราย ที่ใช้ในการลำเลียงยาเสพติด มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยมี นายอำเภอเวียงป่าเป้า พ.ต.อ.ประหยัด สิงห์สิน ผกก.สภ.เวียงป่าเป้า พ.ต.อ.วิชาญ ชูฤทธิ์ ผกก.สภ.แม่สรวย ผู้แทนจาก ป.ป.ส.พื้นที่เชียงราย ร่วมแถลงด้วย
พล.ต.บัญชา ดุริยพันธุ์ แถลงว่า ตามนโยบายรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี,พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการทุกหน่วยให้บูรณาการเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2561 โดยพลเอกอภิรัตน์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ให้เห็นผลภายใน 3 เดือน โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้กำหนดมาตรการหาข่าวเชิงลึก รวมทั้งการบูรณาการกับทุกภาคส่วน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นยาเสพติด ในพื้นที่รับผิดชอบเพื่อตอบสนองนโยบายของหน่วยเหนือ
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ได้ข่าวจากสายลับว่ากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดจะฉวยโอกาสในช่วงเวลาที่มีการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ หรือ เจียงฮายเกมส์ ซึ่งกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่จะต้องไปช่วยปฏิบัติหน้าที่นอกพื้นที่ ลงมือก่อเหตุลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ โดยชุดปฏิบัติการพิเศษดอยเวียงผา ร่วมกับพื้นที่พิเศษดอยวาวี ได้จัดกำลัง ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด รวมถึงมีการลาดตระเวนในพื้นที่ตามยุทธวิธี บนถนนรอง ซึ่งเป็นพื้นที่ล่อแหลม ใกล้กับถนนแม่สรวย-ฝาง
จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. วันเดียวกัน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารตั้งจุดสกัดบริเวณจุดตรวจป่าแดด อ.แม่สรวย บนถนนรอง ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 500 เมตร พบรถยนต์กระบะ(ของกลาง) ต้องสงสัยจอดชะลอเปิดไฟกระพริบ ทราบคนขับภายหลังชื่อ นายเจษฎา พรหมโส อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 226 หมู่ที่ 11 ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย จ.เชียงราย สังเกตเห็นลักษณะมีพิรุธ จึงส่งกำลังเจ้าหน้าที่ขับรถประกบตามไปห่างๆ ซึ่งรถคันดังกล่าวได้ขับมุ่งหน้าวิ่งไปทาง อ.ฝาง ห่างจากจุดตรวจประมาณ 10 กิโลเมตร เมื่อถึงจุดเกิดเหตุที่ทางเข้าบ้านหนองหญ้าไทร มีชายวัยรุ่น ทราบภายหลังต่อมาชื่อ นายเพชร โพธิ์นาที อายุ 28 ปี บ้านหนองเขียว ม.12 ต.แม่กรณ์ อ.เมือง จ.เชียงราย ใช้ไฟฉายส่งสัญญาณโบกรถยนต์คันดังกล่าวให้จอดและขับถอยหลังเข้าข้างทาง จึงแกล้งขับเลยไปประมาณ 5 นาที จึงขับกลับย้อนมาอีกครั้ง พบชายวัยรุ่น จำนวน 5 คน กำลังขนของเป็นกล่องไปรษณีย์ขนาดใหญ่จำนวนมากอย่างเร่งรีบขึ้นกระบะรถ จึงเข้าจอดเทียบและแสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบ
เมื่อทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ทั้งหมดจึงแตกตื่น วิ่งหนีกระเจิงเข้าไปในป่าข้างทาง จึงวิ่งไล่ติดตามและสามารถตะครุบตัวได้จำนวน 2 คน ส่วนอีก 3 คน อาศัยความมืดเป็นฉากกำบัง หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปได้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าภายในกล่องไปรษณีย์ดังกล่าว มียาบ้าบรรจุอยู่เต็มกล่องทุกใบ นับรวมกันได้ประมาณ 5 ล้านเม็ด สอบสวนนายเจษฎา ยอมรับว่าได้รับการติดต่อจากเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเคยต้องโทษจำคุกในคดียาเสพติดมาด้วยกัน และพ้นโทษออกมาได้ประมาณ 5 ปีแล้ว ให้มารับยาบ้าดังกล่าว ไปส่งที่บ้านจำบอน ต.ห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อทำสำเร็จจะได้รับค่าจ้าง 10,000 บาท ส่วนนายเพชร ผู้ให้สัญญาณ ให้การว่าตน และเพื่อนๆ อีก 3 คน ซึ่งหลบหนีไปได้ ได้รับการติดต่อจากพ่อค้ายา ให้มาลำเลียงยาบ้าล็อตนี้ขึ้นรถกระบะคันนี้ เมื่อเสร็จงานจะได้รับค่าจ้างกันคนละ 10,000 บาท จึงตัดสินใจทำ แต่ไม่สำเร็จถูกเจ้าหน้าที่ทหารรวบตัวได้ก่อนงานจะแล้วเสร็จ จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนขยายผล เพื่อติดตามจับกุมกลุ่มผู้ร่วมขบวนการค้ายาเสพติด จากนั้นได้ทำการสอบเค้นทั้ง 2 จนยอมเปิดปากให้การว่า ยังมียาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนอยู่ในป่าท้ายหมู่บ้านหนองหญ้าไทร ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย เช้าตรู่ของวันนี้ จึงนำตัวนายเพชร เข้าไปตรวจสอบตามที่กล่าวอ้าง พบยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงเป้สีเขียวแบบทหาร อีกจำนวน 11 ใบ นับยาบ้าได้จำนวนทั้งสิ้น 1,096,000 เม็ด จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานเพิ่มเติม รวมยาบ้าที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ทั้งหมด 6,096,000 เม็ด ส่วนผู้จ้างวานที่อยู่เบื้องหลัง ได้ประสานกับตำรวจภูธรเชียงราย ให้เข้าดำเนินการสืบสวนเพื่อจับกุมมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป
รองแม่ทัพภาคที่ 3 ยังกล่าวต่อว่า ผลสำเร็จของการจับกุมในครั้งนี้ เกิดจากทุกภาคส่วนผนึกกำลังร่วมกัน มีเป้าหมายเดียวกันในการขับเคลื่อน สกัดกั้นแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ โดยได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายเพิ่มมาตรการความเข้มข้นด้านการข่าว วิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้านและทันเวลา เข้มงวดการสกัดกั้นในลักษณะของการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดทางยุทธวิธี ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ควบคู่กับการลาดตระเวน และเฝ้าตรวจตามเส้นทางในภูมิประเทศ เพื่อลดการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือและในทุกภาคของประเทศไทย
มีรายงานข่าวว่า เวลาประมาณ 09.00 น. วันนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ที่บริเวณ 3 แยก ต.ท่าข้าวเปลือก ซึ่งในขณะผลัดเวรกันกับเจ้าหน้าที่อีกชุด ได้สังเกตเห็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำแดง หมายเลขทะเบียน 1กญ 6281 เชียงราย มีนายเอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 0/89 หมู่ที่ 3 ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เป็นผู้ขับขี่ และ มีนายชาย (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี เช่นเดียวกัน บ้านเลขที่ 112/1 ม.4 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ขับมาจาก บ้านท่าข้าวเปลือก มุ่งหน้าไปทาง อ.ดอยหลวง มีลักษณะมีพิรุธ และวิ่งผ่านไป จึงได้วิทยุแจ้งสายตรวจที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเพื่อทำการตรวจสอบ ค้นภายในตัวไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่ตำรวจจับอาการพิรุธได้ จึงเค้นสอบอย่างหนัก จนทั้ง 2 ยอมรับว่าได้ซุกซ่อนยาเสพติดไว้พงหญ้าข้างทางตรงข้ามหน้าวัดหมื่นพุทธ จึงได้นำตัวชี้จุดของกลางยาเสพติดที่ซุกซ่อนไว้ ประมาณ จำนวน 18,000 เม็ด พร้อมยาไอซ์ ประมาณ 200 กรัม จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และได้แจ้งชุดสืบสวนแม่จันขยายผลต่อไป
ข่าวโดย : เพทาย บ้านชี
