เชียงราย-หลังจากหน่วยงานส่งยายผัดกลับบ้าน และจะมาแก้ไขช่วยเหลือสถานที่อยู่ ส่วนเงินที่ได้รับบริจาคมา กลับต้องไปเป็นค่ารถส่งไปโรงพยาบาล หากเงินหมดคงต้องกลับไปนอนโรงพยาบาลเหมือนเดิม
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 65 จากกรณีย์นางผัด สีใจมา บ้านม่อนพญาอินทร์ เลขที่ 77 ม.19 ต.งิ้ว อ.เทิง จ.เชียงราย ต้องอาศัยโรงอาหารภายในโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เป็นที่หลับนอนมานาน 7 เดือน และอาศัยขอข้าวจากญาติผู้ป่วยมาประทังชีวิต เพื่อรอฟอกไตอาทิตย์ละ 3 วัน เนื่องจากร่างกายอ่อนแรงและไม่มีเงินค่าเดินทางไปกลับ ทำให้ญาติผู้ป่วยบางคนพบเห็น เกิดความสงสาร นำเรื่องไปโพสต์ออกโซเซียล และผู้สื่อข่าวติดตามไปทำข่าว กระทั่งมีผู้โอนเงินบริจาคให้นางผัดไว้ใช้จ่าย
ต่อมาวันที่ 9 ก.พ.กาชาดเชียงราย และ พม.เชียงราย รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ เข้าสอบถามข้อมูลและพานางผัดไปส่งกลับบ้าน ต.งิัว อ.เทิง โดยรับปากว่าจะจัดหารถพานางผัดไปฟอกไต ที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ สัปดาห์ละ 3 วัน และปรับปรุงซ่อมแซมบ้านพัก พร้อมดูแลความเป็นอยู่ให้เหมาะสมกับผู้ป่วย นั้น ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปเยี่ยมนางผัดที่บ้านม่อนพญาอินทร์ หมู่ 19 ต.งิ้ว พบว่าบ้านที่นางผัดอยู่อาศัย เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ ใต้ถุนสูง พื้นบ้านที่เป็นไม้ถูกปลวกกินเกือบทั้งหมดไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ต้องอาศัยนอนที่ชั้นล่าง สภาพปัจจุบันอยู่อาศัยด้วยกัน 3 คน คือนางผัด สามี และลูกชายคนเล็ก
นางผัด เล่าว่า ป่วยเป็นโรคไตและความดันสูงมานานนับ 10 ปี เริ่มรักษาที่ รพ.เทิง เมื่ออาการหนักขึ้นจึงไปฟอกไตที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ห่างจาก อ.เทิง ประมาณ 70 กม. ระยะแรกมีน้องสาวและเพื่อนบ้านผลัดกันไปส่ง แต่นานวันเข้าร่างกายเริ่มไม่มีแรง ไม่มีรายได้ อาศัยเบี้ยคนพิการ รวมเดือนละ 1,000 บาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ และแบ่งให้ลูกชายคนเล็ก กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.4 ไว้ใช้บ้าง จึงตัดสินใจอาศัยหลับนอนใน รพ. เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย นอนโรงพยาบาลนานถึง 7 เดือน
ทางด้านเพื่อนบ้านนางผัด เปิดเผยว่า นางผัดมีความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก ฐานะยากจน มีลูก 3 คน คนโตเป็นผู้หญิง ออกไปทำงานหาเงินส่งมาให้ทางบ้านใช้หนี้ ธกส. และหนี้กองทุนหมู่บ้าน และอื่นๆ ส่วนลูกชายคนกลางปกติจะเป็นคนคอยดูแลแม่ เพิ่งจะได้เดินไปหางานเมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ส่วนลูกชายคนเล็กเรียนอยู่ชั้น ม.4 วันไหนไม่มีเงิน ก็ไม่ได้ไป ข้าวเช้าต้องอด ไปกินข้าวเที่ยงที่โรงเรียน ซึ่งสภาพบ้านผุพัง ห้องน้ำห้องส้วมลำ บากสำหรับผู้ป่วย ทาง พม.รับปากเข้ามาเปลี่ยนเป็นส้วมซักโครก และหารถเข็นวีลแชร์ ใช้แทนไม้เท้าสี่ขาที่เดินไม่ค่อยสะดวก ส่วนการเดินทางไปฟอกไต เบื้องตนทาง พม.-กาชาดเชียงราย จะทยอยหางบมาช่วยแก้ไขบ้านบางส่วน และหาทุนช่วยเหลือลูกชายยายผัด
ส่วนเงินบริจาคที่ได้มา ทางหมู่บ้านได้ตั้งกรรมการขึ้นมาดูแลเงินบริจาค นำไปใช้เป็นค่าจ้างรถรับส่งนางผัดไปฟอกไต สัปดาห์ละ 2,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 6,000 บาท ซึ่งหากเงินบริจาคหมดไป คาดว่ายายผัดคงต้องกลับไปนอนโรงพยาบาลอีกครั้ง ทั้งที่เงินที่ได้รับบริจาค จากผู้ใจบุญต้องนำมาช่วยเหลือ ยายผัดในส่วนกินอยู่ระหว่างรักษาตัว และเลี้ยงลูกชายวัย 14 ปี ที่กำลังเรียน แต่เงินดังกล่าวต้องนำมาใช้เป็นค่ารถเดินทางไปส่งโรงพยาบาลเชียงราย
