เชียงราย-ม้งบ้านธารทอง ม. 11 เชียงแสน มีประชากรหนาแน่น และมีประชากรทยอยเพิ่มขึ้น จึงได้มีประชาพิจารณ์ ร่วมกันขอแบ่งแยกหมู่บ้าน เพื่อการเข้าถึง การพัฒนาให้ทั่วถึง
วันที่ 17 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 น.นายคฑาสิทธิ์ เนื่องหล้า (นายอำเภอเชียงแสน)ได้มอบหมายให้นายปราณพัฒน์ หาญชัย ปลัดอำเภอเชียงแสน ลงพื้นที่ประชาพิจารณ์ การขอแยกจัดตั้งหมู่บ้านธารทอง ม.11 ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ออกเป็น 2 หมู่บ้าน โดยมี นางโสภา สิทธิ กำนัน ต.แม่เงิน นายสมบูรณ์ พรมมินห์ รองนายก ทต.แม่เงิน รต.ไพบูรณ์ สายหงส์ กกล.ผาเมือง หน.ชป.บ้านธารทอง เข้าร่วมสร้างความเข้าใจให้กับชาวม้งหมู่บ้านธารทอง ม.11 ถึงการขอแบ่งแยกหมู่บ้าน ออกเป็น 2 หมู่บ้าน เพื่อให้เกิดความรักความสามัคคีกันในชุมชน
ซึ่งหมู่บ้านธารทองส่วนใหญ่เป็นชาวเผ่าม้ง มีประชากร 2028 คน 287 หลังคาเรือน นับถือศาสนาพุทธ และศาสนาคริสต์ การประชาพิจารณ์จัดขึ้นศาลาอเนกประสงค์กลางหมู่บ้าน มีผู้เข้าร่วมประชาพิจารณ์จำนวน 237 คน ก่อนประชาพิจารณ์ทางนายปราณพัฒน์ ปลัด อ.เชียงแสน ได้มีการชี้แนวทางขั้นตอนกฎระเบียบ การขอแบ่งแยกหมู่บ้านเป็น 2 หมู่บ้าน สามารถทำได้หากเข้าตามหลักเกณฑ์ระเบียบราชการ คือต้องมี 120 หลังคาเรือนขึ้นไป และมีประชากรหนาแน่น ส่วนทาง ทต.แม่เงิน ได้จัดทำภาพแผนที่ตารางแบ่งเขต ให้ชาวบ้านธารทอง ม.11 พิจารณาก่อนจะมีการลงมติเลือกแบบแบ่งเขต
ทั้งนี้ประชาพิจารณ์รอบแรก ขอคะแนนยกมือ ลงมติต้องการแยกหมู่บ้าน ผลยกมือลงมติ ต้องการแยก 106 คน ไม่แยก 83 คน ไม่แสดงสิทธิ 48 คน จากทั้งหมดมีผู้เข้ามาร่วมประชาพิจารณ์ 237 คน ผลต้องการขอแยกเขตหมู่บ้าน เป็น 2 หมู่บ้าน และทาง ทต.แม่เงิน ได้สำรวจทำแผลที่การแบ่งเขตของหมู่บ้านมาทั้งหมด 3 แบบ ให้ชาวบ้านเป็นผู้เลือกเขตหมู่บ้าน ทั้ง 3 แบบ ผลปรากฏว่า มีผู้เลือกแบบที่ 1 จำนวน 54 คน แบบที่ 2 จำนวน 77 คน แบบที่ 3 จำนวน 34 คน มติลงความเห็นเลือกแบบที่ 2 จากนี้ทาง ทต.แม่เงินจะลงพื้นที่รังวัดแบ่งแนวเขตให้ชัดเจนร่วมผู้นำหมูบ้านใหม่ และผู้นำหมู่บ้านเก่า และทางอำเภอจะยื่นเสนอเรื่องไปตามขั้นตอน ของการขอบ่งแยกหมู่บ้าน
ทั้งนี้การของแบ่งแยกหมู่บ้านธารทอง ม. 11 ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน เกิดจากการที่ มีประชากรจำนวนมาก ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของชาวเผ่าม้ง อีกทั้งการพัฒนาในหมู่บ้านไม่ทั่วถึง จึงมีมติขอแบ่งแยก เป็น 2 หมู่บ้าน เพื่อให้ผู้นำชุมชนหมู่บ้านธารทอง เก่าและใหม่ ได้พัฒนาคนในชุมชนอย่างทั่วถึง
