เชียงราย-กองกำลังผาเมืองยิงปะทะคาราวานลำเลียงยาบ้า พบผู้ต้องหาตาย 5 ศพ ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบของกลางยาบ้า 720,000 เม็ด อยู่ในกระสอบปุ๋ยดัดแปลงเป็นเป้สะพายหลัง ห่างชายแดนแม่สาย 700 เมตร
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 พ.ย. 61 ที่ฐานปฎิบัติการผาหมี ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาค 3 พล.ต.วิชิต วงค์สังข์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พ.อ.ณที ทิมแสน รอง ผบ.ฉก.ม. 2 พ.ท.บัณฑิต ชาวกัณหา ผบ.บก.ควบคุม ฉก.ม.2 ร่วมกันแถลงว่า เมื่อเวลา 18.50 น.วันที่ 25 พ.ย.61 พ.ท.บัณฑิต ชาวกัณหา ผบ.บก.ควบคุม ฉก.ม. 2 ร่วมกับ ร.ท.จตุภูมิ กันคล้อย ผบ.ร้อย.ม.2 ฉก.ม.2 นำกำลังทหารออกลาดตระเวนตรวจสอบตลอดแนวชายแดน ภายหลังจากได้รับรายงานว่าจะมีขบวนการลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนบ้านสามปี(อาตี่) ตรงข้าม บ.ผาหมี ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จนกระทั่งทหารลาดตระเวนไปจนกระทั่งถึงกลางป่า บ.ผาหมี ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย พิกัด NC892571 ห่างจากชายแดน 700 เมตร พบชายฉกรรจ์ประมาณ 7 คน เดินแบกกระสอบปุ๋ยดัดแปลงเป็นเป้จากชายป่าเขตแดน ข้ามถนนเลียบตะเข็บเข้าใกล้เจ้าหน้าที่แอบซุ่มอยู่ เจ้าหน้าที่เห็นดังนั้นจึงออกมาแสดงตัวพร้อมตะโกนสั่งให้หยุด เพื่อขอทำการตรวจค้น
แต่ขบวนการขนยาเสพติดเมื่อรู้ว่าตกอยู่ในวงล้อมของเจ้าหน้าที่ จึงชักอาวุธปืนไม่ทราบชนิด ระดมยิงใส่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อเปิดทางหนี เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังหลบเข้าที่กำบัง และใช้อาวุธปืนยิงโต้ตอบฝ่ายตรงข้ามเกิดการยิงปะทะกันประมาณ 15 นาที เจ้าหน้าที่จึงวิทยุแจ้ง ผบ.ฉก.ม. 2 ขอกำลังสนับสนุนเพิ่ม 30 นาย เข้าปิดล้อมตรึงพื้นที่บ้านผาหมี ไว้จนกระทั่งรุ่งเช้า จึงเข้าเคลียร์พื้นที่และเกิดการยิงปะทะกับขบวนการขนยาบ้าอีกรอบประมาณ 10 นาที เสียงปืนจึงสงบลง จากการเข้าตรวจสอบพบศพของขบวนการขนยาเสพติด นอนกระจัดกระจายอยู่ใต้ต้นไม้ และข้างโขดหินกลางลำธารที่แห้งกลางป่า 5 ศพ ที่ข้างศพมีถุงปุ๋ยเย็บเป็นเป้สะพายแบกไว้ที่ไหล่ทุกคน เมื่อตรวจสอบภายถุงปุ๋ยพบยาบ้าจำนวน 720,000 เม็ด 
พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาค 3 กล่าวว่า ผลการยิงปะทะจับตายครั้งนี้ เป็นการทำงานแบบบูรณาการของทหาร พลเรือน ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ทุกฝ่ายร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลปฏิบัติงานร่วมกันตามแผนบูรณาการที่มีการประชุมเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ จ.เชียงใหม่ ส่วนขบวนการยาเสพติดชุดนี้เป็นขบวนการของกลุ่มมูเซอ ตรงข้าม บ.ผาหมี อ.แม่สาย ต่อไปนี้ฝ่ายปกครอง นอภ.ตำรวจทุกพื้นที่ของกองทัพภาค 3 ต้องมีการสแกนผู้เข้าพักอยู่อาศัยทุกหมู่บ้าน ตรวจสอบคนไหนมีฐานะร่ำรวยผิดปกติ ตรวจสอบบัตรประจำตัวเป็นบัตรปลอมหรือไม่อย่างไร ต้องมีการทำงานอย่างจริงจัง เพื่อแยกคนดีคนชั่ว จะใช้มาตรการยึดทรัพย์ให้เข้มแข็งขึ้นเพื่อสกัดกั้นปราบปรามยาเสพติดให้หมดไป 
