เชียงราย-คณะกรรมาธิการลงพื้นที่ตรวจสอบเอาผิด คนสวมบัตร และท่าข้ามน้ำที่แอบลักลอบขนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฏหมาย ยึดที่สาธารณะริมแม่น้ำสายคืน
วันที่ 9 พ.ค.2565 นายจารึก ศรีอ่อน และนายสุทา ประทีป ณ ถลาง รองประธานคณะกรรมาธิการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ นำคณะพร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง ปัญหาชายแดน ลักลอบขนต่างด้าวเข้าประเทศ ทั้งสอบผู้นำชุมชน สวมบัตรประจำตัวประชาชน การเรียกเก็บเงินค่าทำบัตรจากต่างด้าว ปัญหาลุกล้ำท่าน้ำสายที่สาธารณะประโยชน์ นำมาแสวงหาประโยชน์เข้ากระเป๋าตนเอง
ซึ่งนายปรีชา ศรีเพชร อดีตปลัดอำเภอแม่สาย อาศัยอยู่ในชุมชนบ้านเกาะทราย ติดลำแม่น้ำสาย ชายแดนแม่สายแบ่งเขตแดนระหว่าง จ.ท่าขี้เหล็ก เมียนมา ได้ยื่นคำร้องไปยังคณะกรรมาธิการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งนายปรีชา สุดทนกับพฤติกรรม การกระทำผิดซ้ำซาก มีการลักลอบขนต่างด้าวเข้าเมืองอย่างผิดกฏหมาย ทำกันเป็นขบวนการใหญ่ ที่ผ่านมาตนเองพบต่างด้าวราว 18 คน ได้เดินลัดเลาะริมกำแพงบ้าน ที่ติดแม่น้ำสาย ขณะเตรียมลักลอบข้ามเข้า อ.แม่สาย โดยมีคนกลุ่มในชุมชนเป็นผู้นำพา จนสามารถเล็ดลอดเข้าประเทศมาได้ แต่ต่างด้าวทั้ง 18 คน ถูกตำรวจสกัดจับจับที่ได้ อ.สบปราบ จ.ลำปาง
นายปรีชา กล่าวว่ามีข้อมูล บ้านเรือนที่ติดริมแม่น้ำสายบางแห่ง ลักลอบแอบทำเป็นท่าข้ามผิดกฎหมาย เช่น ท่า 18 มงกุฎเฝ้าอยู่กันเป็นกลุ่ม ท่าข้างวัดเกาะทราย ท่าเป๊อะหว่าง ท่าเจ๊ดาว มีลักลอบขนสิ่งผิดกฏหมาย เช่น สุราต่างประเทศ บุหรี ลักลอบนำต่างด้าวเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และพบว่าคนใกล้ชิดนักการเมืองระดับประเทศคนหนึ่ง สร้างสิ่งปลูกสร้างลุกล้ำ ท่าน้ำสายสาธารณะ นำไปแสวงหาผลประโยชน์ และมีท่าข้ามบริเวณป่ากล้วย ซึ่งมีต้นกล้วยปกปิดบังสายตาจากเจ้าหน้าที่ ทำให้มีการลักลอบขนรถจักรยานยนต์ สุรา บุหรี และอื่นๆ อย่างคึกคัก ทั้งนี้นายปรีชา ยังได้ร้องคณะกรรมธิการ เรื่องผู้นำชุมชนสวมบัตรประชาชน ซึ่งได้อ้างว่ามีเกิดที่ อ.แม่สรวย มีบิดาคนเดียวกัน แต่ต่างมารดา คณะกรรมาธิการเร่งตรวจสอบเอาผิด และได้นัดหมายประชุมในวันที่ 10 พ.ค.65 ณ ห้องประชุมศาลากลางเชียงราย อีกครั้ง
