เชียงราย-เต้พระราม 7 ลุยตลาดสายลมจอยแม่สาย อาสาขอค่าเยียวยาเหตุน้ำท่วมใหญ่ให้ชาวบ้าน ท้ายส่งคำด่าง่าว…ภาษาเหนือแปลว่าโง่
วันที่16 ส.ค.2565 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้เดินทางไปดูพื้นที่บริเวณสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 พร้อมหารือกับนายวรรณศิลป์ จีระกาศ ปลัดเทศบาล ต.แม่สาย ก็ได้รับแจ้งว่า เหตุน้ำท่วมบริเวณชายแดน อ.แม่สาย เกิดขึ้นทุกปีเนื่องจากลำน้ำสายแคบ และไหลแรงมาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่สามารถขุดลอกหรือทำพนังกั้นน้ำ ได้เนื่องจากเป็นเรื่องระหว่างประเทศที่ยังไม่ได้ข้อยุติระหว่างกัน แต่สำหรับน้ำท่วมครั้งล่าสุดนี้นายวรรณศิลป์ระบุว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี เลยทีเดียวเพราะน้ำมีปริมาณมาก และเชี่ยวกราดกว่าทุกครั้ง แม้จะมีการแจ้งเตือนทำให้ผู้คนเก็บข้าวของได้ทันแต่น้ำลึกกว่าที่คาดการณ์ทำให้น้ำทะลักท่วมอย่างน้อย 200 หลังคาเรือน ดังนั้นปลัดเทศบาล ต.แม่สาย จึงเสนอให้มีการนำปัญหาเข้าสู่คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง ให้มีการทำพนังกั้นน้ำ เนื่องจากทางฝั่งซ้ายของสะพานมีระยะทางที่จำเป็นต้องมีพนังยาวประมาณ 660 เมตร และฝั่งขวามีระยะทางประมาณ 1,680 เมตร ปัจจุบันหากน้ำสายล้น ฝั่งสามารถทะลักเข้ามาได้ตลอดแนว
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่าตนทราบว่าน้ำท่วมที่ อ.แม่สาย เป็นน้ำจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ที่ไหลมาอย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายหนักทั้ง 2 ฝั่งประเทศ เพราะเกิดจากการมีผู้รุกล้ำลำน้ำสายตลอดทั้ง 2 ฝั่ง ส่งผลให้ลำน้ำตื้นเขิน ดังนั้นการจะแก้ไขปัญหาหากมองเฉพาะในฝั่งไทย คือต้องให้มีการคืนพื้นที่ริมน้ำให้กับธรรมชาติ ไม่ยกเว้นว่าผู้ใดจะเป็นผู้ครองครอง ซึ่งหากไม่แก้ไขก็จะทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมทุกปี สุดท้ายชาวบ้าน 4-5 ชุมชนริมฝั่งหลายร้อยครัวเรือน ก็ต้องเดือดร้อนไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามทราบว่า ผู้อาศัยอยู่ริมฝั่งลำน้ำระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ส่วนใหญ่ไม่มีทะเบียนบ้านและมีการรุกล้ำลำน้ำ ดังนั้นการแก้ไขปัญหาจึงทำได้ 2 วิธี คือวิธีแรกหากไม่จัดการผู้รุกล้ำลำน้ำก็ต้องทำพนังกั้นน้ำสูง 2 เมตรเพื่อป้องกัน วิธีที่ 2 เป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาว คือให้ผู้ที่รุกล้ำได้โยกย้ายออกไป สร้างอาคารในสถานที่ใหม่โดยมีการจ่ายค่าเยียวยาให้ต่อไปต้องทำให้ลำน้ำลึกเหมือนเดิมและทำกำแพงให้เรียบร้อยเพื่อให้ลำน้ำกว้างขึ้นการขนถ่ายแรงงานด้าวจะได้ขนถ่ายยากขึ้น เพราะยิ่งลำน้ำแคบเนี่ยแค่กระโดดไป 3-4 ก้าวก็ถึงอีกฝั่งแล้ว การข้ามมาของแรงงานชาวเมียมามายังไทย การข้ามจากไทยไปเมียนมามันง่ายเหลือเกินในปัจจุบัน ความจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องของความมั่นคงเลยและเกี่ยวข้องกับหลายส่วน เกี่ยวกับกรรมาธิการทหาร หากจะแก้ไขจริงๆ ก็นำเข้าสู่กรรมาธิการทหารและยังเกี่ยวกับกรมที่ดิน กรมเจ้าท่า ท้องที่ด้วย แต่ถ้าจะอยู่กันแบบนี้ไปเรื่อยๆ น้ำก็ท่วมทุกปีนะ ซึ่งก็แล้วแต่คนท้องที่ แต่ถ้าจะให้แก้ก็บอกมาละกันผมจะลุยให้ แต่ก็ต้องยอมเสียที่นะบ้านอาจจะต้องทุบทิ้ง” ท้ายสุดนายมงคลกิตติ์ ทิ้งคำเหนือว่าง่าว หรือแปลว่าโง่ ทิ้งท้ายให้ใคร
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: