เชียงราย-คึกคักขบวนแห่เรือไฟ หนึ่งเดียวในภาคเหนือ ที่หมู่บ้านชาวลาว สืบทอดจารีตประเพณีบรรพบุรุษ
วันที่ 11 ต.ค.2565 คึกคักกับประเพณีไหลเรือไฟ ที่บ้านสบคำ ม.5 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ได้จัดประเพณีไหลเรือไฟ ที่มีหนึ่งเดียวของภาคเหนือ หมู่บ้านสบคำ เป็นหมู่บ้านของชาวลาว ที่อพยพมาจากแขวงไชยบุรี สปป-ลาว เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มาตั้งถิ่นฐานที่บ้านสบคำ อ.เชียงแสน ส่วนใหญ่ 70 % เป็นชาวลาว ซึ่งสืบทอดประเพณีจารีต มาจากแขวงไชยบุรี สปป-ลาว
นายอานนท์ สมพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านสบคำ ม.5 เผยว่า การจัดไหลเรือไฟ ได้สืบทอดตามประเพณีของปู่ย่าตายาย ที่ได้ย้ายถิ่นฐาน มาอยู่ที่บ้านสบคำ การจัดงานล่องเรือไฟ ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 24 โดยจะจัดขึ้นทุกปี หลังวันออกพรรษา 1 วัน ของทุกปี ถือได้ว่าเป็นวันสนุกสนานของคนในครอบครัว และชุมชน ผู้ที่ไปอยู่ต่างถิ่น ก็จะเดินทางกลับบ้าน มาร่วมพิธีไหลเรือไฟ โดยคนในชุมชนจะช่วยกันตบแต่งเรือไฟ ของแต่ละกลุ่ม ให้ตกแต่กลุ่มละราศี เรือไฟจะประดับไปด้วยวัสดุจากธรรมชาติ และนำขวดใส่น้ำมัน ติดตัวรอบคันเรือ เพื่อในช่วงไหลเรือไฟ จะจุดเห็นสว่างกลางลำแม่น้ำโขง
ซึ่งแต่ละกลุ่มได้ตบแต่งเรือไฟ 12 ราศี ของแต่ละกลุ่มเสร็จ ก็จะนำมา ตั้งขบวนที่หน้าวันพระธาตุผาเงา จากนั้นจะเปิดเพลงเสียงดัง ประชันกันแต่ละกลุ่ม ฟ้อนรำด้วยความสนุกสนานสามัคคีกัน ในกลุ่มและคนในชุมชน ระหว่างที่ขบวนได้เคลื่อนแต่ละกลุ่มก็จะเต้นฟ้อนรำกันไปอย่างสนุกสนาน ซึ่งทางคณะก็จะคอยดูให้คะแนน ขบวนเรือไฟแต่ละกลุ่ม โดยเกณฑ์การตัดสิน ทางคณะกรรมการจะดูที่ การใช้วัสดุจากธรรมชาติ ความสวยงาม ความคิดสร้างสรรค์ และขบวนแห่ต้องพร้อมเพียงสามัคคีกัน
ซึ่งพิธีไหลเรือไฟในช่วงค่ำ ภายในพิธีไหลเรือไฟ ทางคณะกรรมของชุมชน ได้จัดทำเรือไฟขนาดเล็ก ให้กับนักท่องเที่ยว หรือผู้มาร่วมพิธีไหลเรือไฟ เพื่อได้ร่วมขอขมานำสิ่งที่ไม่ดีให้ไหลไปกับแม่น้ำโขง ซึ่งการไหลเรือไฟของชาวลาวที่บ้านสบคำ อ.เชียงแสน ได้สืบทอดตามบรรพบุรุษ บูชากราบไหว้รอยพระพุทธบาท ที่พระพุทธเจ้าได้เหยียบแม่น้ำโขง และเป็นการขอขมา ให้นำสิ่งไม่ดีให้ไหลไปกับแม่น้ำโขง และยังเป็นการส่งเสริม ความสามัคคีคนในชุมชน และส่งเสริมการท่องเที่ยว
